ปลัดเทศบาล แจงแล้ว! ปัดติดแกลมนั่งเก้าอี้ตัวละหมื่น เหตุเก้าอี้ตัวเก่าชำรุด ใช้งานมา 10 ปี รองนายกฯ ยันทำถูกต้องตามระเบียบ-ข้อบังคับ
จากกรณี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงฉะเดือด กลางที่ประชุมสภาเทศบาล เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่วาระการประชุมเป็นการพิจารณาอนุมัติงบประมาณ การจัดซื้อเก้าอี้ทำงานของ ปลัดเทศบาลตำบลสำโรง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 3 ส.ค. 67 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลสำโรง นาย อาคม ธนูทอง ปลัดเทศบาลตำบลสำโรง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี เปิดห้องทำงานให้ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ ซึ่งก็มีตู้เก็บเอกสาร ชั้นวางของ โซฟาหนังเทียม ซึ่งมีสภาพเก่า และเก้าอีทำงานตัวเก่า ที่นายอาคมให้ผู้สื่อข่าวทดลองนั่งดู
ซึ่งภายนอกอาจจะดูมีเพียงเบาะตัวหนังเทียมที่ลอกล่อน และตัวสปริงพนักพิงที่ทำให้เวลานั่งแอ่นตัวก็มีความเสี่ยงที่จะให้คนนั่งหงายหลังได้ ถ้าทิ้งน้ำหนักตัวไปมาก แต่ภาพรวมก็ยังพอที่จะนั่งทำงานได้
นายอาคม กล่าวว่า เก้าอี้ทำงานตัวนี้ เป็นการสั่งซื้อตอนปี 2557 ในขณะนั้นเพิ่งยกระดับเป็นเทศบาล จึงมีการสั่งซื่อครุภัณฑ์ โต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งเกือบ 10 ปีที่ใช้งานมาก็เป็นเรื่องปกติที่จะชำรุด ตนจะนำเข้าที่ประชุมสภาตั้งแต่ครั้งก่อน แต่เจ้าหน้าที่ไปหาสเปคเก้าอี้ไม่ทัน มาประชุมครั้งล่าสุดจึงไปสำรวจราคาในอินเตอร์เน็ตมา พบว่า ราคาเก้าอี้แบบเดิม ราคาอยู่ที่ 9,590 บาท จึงนำเรื่องนี้เข้าสู่วาระการประชุมขอการอนุมัติเพราะเป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์
แต่มีสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงไม่พอใจ ว่าตนเองสนใจแต่เรื่องเก้าอี้ และมีราคาสูงเกินไป ให้นั่งเก้าอี้ธรรมดา ซึ่งตนและนายกก็ได้ชี้แจงไปว่า ราคา 10,000 บาทเป็นราคาที่ตั้งไว้ หากราคาไม่ถึงเงินที่เหลือก็จะเป็นเงินสะสมในคลังต่อ
และตนอยากให้มองว่าตนเองเป็นปลัดเทศบาล ข้าราชการประจำที่มีตำแหน่งสูงสุดในสำนักงาน ตนเองก็ต้องนั่งเก้าอี้ปลัดเทศบาลที่เป็นผู้บริหาร ในฐานนะหัวหน้าข้าราชการ ตนเองก็ต้องนั่งตามตำแหน่ง และสถานะของตนเอง ไม่ได้คิดว่าจะต้องนั่งเก้าอี้หรูหราเกินตัวอะไร แต่ราคาเก้าอี้ลักษณะนี้ก็เป็นราคานี้ แต่อย่างไรเก้าอี้ที่ไปขออนุมัติจัดซื้อก็เป็นทรัพย์สินของราชการตนเองไม่ได้อยู่ที่นี่ เก้าอี้ตัวนี้ก็จะมีคนมานั่งต่อใช้ได้ระยะยาวตามคุณภาพของเก้าอี้ ซึ่งก็เหมือนหน่วยงานราชการหน่วยอื่น ที่จะมีโต๊ะเก้าอี้ตามสถานะ และตำแหน่งของตัวเอง
แต่ยอมรับว่าตัวของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงรายนี้ก็มักจะต่อต้านและเห็นแย้งในสิ่งที่ตนเอง หรือนายกเทศบาลนำเสนอในสภาเทศบาลอยู่เป็นประจำ และกรณีนี้ยังไปอภิปรายยึดโยงเรื่องถนนพัง และน้ำท่วมขัง แต่สุดท้ายตัวสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงเองก็ไม่ได้นำเสนอเรื่องที่เข้าในที่ประชุมในวาระอื่นๆ เลย เพียงแค่อภิปรายให้เกิดการกระทบเรื่องเก้าอี้ที่ตนเองนำเสนอเท่านั้น
และเรื่องว่าตนเองไม่ลงพื้นที่นั้น ตนเองก็ยังรู้สึกงง เพราะตนเองก็ออกไปราชการ ตามภารกิจตามหน้าที่ ถ้ามีการสั่งการ แต่ตัวสท.คนนี้ตนเองมองว่าอาจจะมีการเตรียมการมาล่วงหน้า และยังอภิปรายนอกประเด็น เหมือนด่าตนเองในสภา ต่อหน้าทุกคน ทั้งที่ตนเองเข้าที่ประชุมสภาเพื่อมาขอซื้อเก้าอี้ ตนเองก็พยายามอธิบายในที่ประชุม
ส่วนตัวไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะถูกโจมตีอะไรต่ออีก เพราะในพื้นที่มีความขัดแย้งรุนแรง เพราะที่ผ่านมาก็พบว่าถูกร้องเรียนจาก สท.รายนี้เยอะมาก แต่ยืนยันไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวอะไร เพราะตนเองเห็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงรายนี้แต่เด็กเพราะเป็นลูกของอดีตนายกคนก่อน
ขณะที่รองนายกเทศบาลตำบลสำโรง กล่าวว่า ในระบบราชการนั้น ก่อนหน้านี้มีการกำหนดครุภัณฑ์ โต๊ะเก้าอี้ ของข้าราชการในหน่วยงานราชการ ในแต่ละตำแหน่งนั้นอย่างชัดเจน แต่ในปัจจุบันการบริหารราชการเปลี่ยนเป็นระบบแท่ง คือมีระดับ ปฎิบัติงาน ปฎิบัติการ อำนวยการ และผู้บริหาร ไม่ได้เป็นระดับซี อย่างเมื่อก่อน การจัดซื้อ คุรุภัณฑ์โต๊ะเก้าอี้อุปกรณ์ของแต่ละตำแหน่งแต่ละคน ก็จะขึ้นอยู่ที่ผู้บริหารจะพิจารณาตามความเหมาะสม
ส่วนตัวจึงไม่ได้รู้รายละเอียดเรื่องราคาของคุรุภัณฑ์โต๊ะเก้าอี้แต่อย่างใด เพราะอย่างตนเองก็มาใช้ต่อจากรองนายกคนเก่า ซึ่งก็มีสภาพเก่าไม่ต่างจากของปลัดเทศบาล
การตั้งงบประมาณ 10,000 บาทเป็นการตั้งเอาไว้ เมื่อผ่านมติของสภาก็จะไปจัดซื้อซึ่งอยู่ในงบประมาณ 10,000 บาท หากราคาเก้าอี้ไม่ถึง 10,000 บาท ส่วนที่เหลือก็เป็นเงินสะสมในกองคลังของเทศบาลต่อไป เหมือนการจัดซื้อเครื่องตัดหญ้า คอมพิวเตอร์ คุรุภัณฑ์อื่นๆ ที่เทศบาลจำเป็นต้องใช้ในการปฎิบัติงาน
ซึ่งในการประชุมวาระนี้ที่มีการโต้เถียงกันแต่สุดท้ายมติของสภาฯ ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 12 คน ประธานสภาได้ลาป่วย รองประธานสภาจึงทำหน้าที่เป็นประธาน ไม่สามารถออกเสียงได้ สมาชิก 6 คน งดออกเสียงในวาระนี้ อีก 3 คน เห็นชอบ วาระนี้มีเพียงหนึ่งเสียงของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรงที่ไม่เห็นด้วย ทำให้วาระการ ตั้งงบประมาณการจัดซื้อเก้าอี้ของปลัดเทศบาล 10,000 บาท ถือว่าผ่านมติ ไม่ผิดต่อระเบียบและกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ก็เป็นเลขานุกาลจะทำประชุมที่สรุปก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามขั้นตอน
ด้าน นายทศพล ธุสาวัน หรือ สท. ทศพล สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำโรง กล่าวว่า ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ลงพื้นที่หาข้อมูลตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า ปัญหาและชาวบ้าน เดือดร้อนเป็นถนนเส้นหลักที่พบว่าเพิ่งก่อสร้างได้ไม่นานแล้วเกิดการทรุดตัว และพังทลายของไหล่ทาง เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรแก้ไข เนื่องจากว่าเป็นเรื่องความปลอดภัยของชาวบ้านในพื้นที่ที่ใช้รถใช้ถนน
และ เป็นเรื่องที่ตนเองหยิบยกไปเปรียบเทียบกับเรื่องซื้อเก้าอี้ตามในคลิป เพราะถนนเป็นโพลงดินขนาดใหญ่ ชาวบ้านร้องเรียนมาตลอด ตนเองเอาเรื่องนี้เข้าไปเป็นวาระอื่นๆ ในที่ประชุมก็ถูกเมินเฉยมาตลอด ในเมื่อตนเองได้รับเลือกจากชาวบ้านให้มาเป็นสมาชิกเทศบาลตำบลสำโรง ชาวบ้านอาจจะไม่กล้าพูด เพราะกลัวผลกระทบแต่ ตนเองจะพูดแทนชาวบ้าน เพราะรู้สึกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เรื่องส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง
หากจะมองว่าเป็นเพราะตนเป็นลูกของอดีตนายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามนั้น ข้อเท็จจริงตนเองอยากให้มองว่าตนทำหน้าที่ตามที่ถูกรับเลือก ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น เพราะอย่างไรตนก็มีฐานะเป็นญาติของ นายกเทศบาลตำบลสำโรงด้วยเช่นกัน แต่ที่ตนต้องคัดค้านไม่เห็นด้วยในวาระนี้ แต่วาระอื่นๆ นั้น หากทำดีตนเองก็พร้อมที่จะสนับสนุน และยกมือผ่านวาระให้
ส่วนเรื่องเก้าอี้ตนยังมองว่า ด้วยสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ควรที่จะใช้ภาษีของประชาชนไปอย่างคุ้มค่ามากที่สุด คือการแก้ไขปัญหาของประชาชน เก้าอี้นั่งทำงานนั้นจะนั่งแบบใดราคาใดก็คงได้ เพราะสิ่งสำคัญคือทำงานบริการประชาชน หากลองไปถามชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีใครรู้จักปลัดเทศบาลหรือไม่นั้น ตนเองกล้าการันตีได้ว่าไม่มีใครรู้จัก เพราะไม่เคยลงพื้นที่รับฟังชาวบ้านเลย และหลังจากนี้ตนเองก็จะคงทำหน้าที่ต่ออะไรที่ไม่ถูกต้องตนเองก็จะคัดค้านเพื่อประโยชน์ของชุมชน
Advertisement