แท็กซี่โหดมอบตัว ฉุนผู้โดยสารทอมเมา ใช้มีดฟันหัวสาหัส อ้างโดนหยามเกียรติ เอาเงินปาหน้า เครียดเรื่องครอบครัว บอกหากย้อนเวลาได้ก็จะไม่ทำ
จากกรณี แท็กซี่หัวร้อนก่อเหตุใช้มีดจ่าฟันหัวผู้โดยสารสาวทอมรับบาดเจ็บสาหัส หลังผู้เสียหายเมา และอาเจียนใส่ถุงพลาสติก แต่คนขับรถแท็กซี่ไม่พอใจร้องเรียกขอค่าเสียหาย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 12 ส.ค. 67 ที่ สน.สุทธิสาร นายประกาศ คนขับรถแท็กซี่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ภายหลังหลังเกิดเหตุญาติของผู้เสียหาย และเพื่อน ที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าร้องเรียน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เมื่อวานนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.โชคชัย แต่จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ของ สน.สุทธิสาร ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความอีกครั้งเมื่อวานนี้ โดยนายเอกภพเป็นผู้พามาแจ้งความ
จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ได้สอบปากคำผู้เสียหายที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายยังมีอาการสาหัส และให้ปากคำได้เพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกันชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ได้ประสานไปยังแอปพลิเคชั่นที่เพื่อนของผู้เสียหายเรียกใช้บริการ จนทราบว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวเป็นใครจึงติดต่อให้เข้ามามอบตัว โดยนายประกาศ แจ้งว่าจะเข้ามอบตัวในช่วงเย็นวานนี้ (11ส.ค.) แต่ปรากฏว่าไม่มาตามนัด
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ส.ค. นายประกาศได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร โดยอ้างว่าสาเหตุเมื่อวานที่ตนเองไม่ติดต่อเข้ามอบตัวตามที่นัดหมายไว้ เพราะกลัวสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนายเอกภพทราบข่าว ก็เดินทางมาที่ สน.สุทธิสารทันที เพื่อสอบถามสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยนายเอกภพ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมซักถามผู้ต้องหาทราบว่า มีปากเสียงกับผู้ต้องหา และเพื่อนๆ ตั้งแต่ในรถ จนคุมอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อเพื่อนของผู้เสียหายโยนเงิน 200 บาทใส่หน้า ประกอบกับเครียดเรื่องปัญหาครอบครัวและปัญหาหนี้สิน ทั้งภรรยาใกล้คลอด ลูก 2 คนกำลังเรียนหนังสือโทรศัพท์มาขอเงิน ซึ่งตนไม่มีเงินให้ อีกทั้งยังค้างค่าบ้าน แล้วถูกเจ้าของอู่แท็กซี่โทรมาทวงค่ารถ จึงเครียดหนัก เมื่อมาเจอเหตุคนเมาแล้วอ้วกจึงไปกันใหญ่ หากย้อนเวลากลับไปคงไม่ทำอะไรรุนแรงถึงขนาดนี้ รู้สึกเสียใจ และจะไม่นำมีดดาบไว้ในรถ เพราะถ้าไม่มีมีด ก็จะเอาออกมาทำร้ายผู้โดยสารไม่ได้ อยากไปขอโทษผู้เสียหายที่โรงพยาบาล
ด้าน พ.ต.ท.ชุติพนธ์ ตระกรุดทอง รองผู้กำกับสอบสวน สน.สุทธิสาร ระบุว่า เบื้องต้น เข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยใช้อาวุธ และทำลายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ต้องรอผลตรวจจากแพทย์ ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวนระบุว่า ผลการตรวจจากแพทย์จะออกในวันพรุ่งนี้ (13 ส.ค.)
ด้านน้องสาวผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้พี่สาวรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีอาการกระโหลกร้าว เลือดออกในสมองเสี่ยงต่อการช็อก และความจำช่วงเกิดเหตุเลือนลาง ซึ่งหมอประเมินว่าผู้บาดเจ็บจะมีอาการช็อกจากการถูกฟันที่ศีรษะไปตลอดชีวิต
ทั้งนี้หลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุนานเกือบ 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยยังไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่จะนัดหมายมาแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้งหลังผลการตรวจบาดแผล และผลจากความเห็นของแพทย์ส่งกลับมาจึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส
โดยในระหว่างกลับบ้านผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามผู้ก่อเหตุว่า เหตุใดจึงก่อเหตุลงไป เจ้าตัวอ้างว่าถูกดูถูกดูหมิ่นหลายอย่าง ทั้งการปาเงินใส่หน้า และดูถูกที่ตนเองเป็นแท็กซี่ ประกอบกับมีความเครียดหลายอย่างในเรื่องครอบครัว หากย้อนเวลากลับไปได้ก็จะไม่ทำอีก นอกจากนี้ยังอยากขอโทษผู้เสียหายที่ก่อเหตุลงไป โดยหลังจากให้ปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเดินทางไปพบผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และรอเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง
Advertisement