สลด! แรงงานชาวเมียนมา ถูกเครื่องปั๊มกระดาษหนีบคอกระดูกหักดับคาโรงงาน
วันนี้ (27 ส.ค.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายใน บริษัทแห่งหนึ่ง ซอยจอมทอง 5 สาเหตุเกิดจากเครื่องปั๊มกระดาษ หนีบคอ จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุ อยู่ภายในบริเวณของ บริษัทแห่งหนึ่ง ซอย จอมทอง 5 ถนนจอมทอง แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ซึ่งบริษัทดังกล่าวประกอบกิจการเป็นโรงพิมพ์ขนาดใหญ่ และจากการตรวจสอบภายในโรงพิมพ์ดังกล่าว พบร่างของนายวิน จอ อายุ 48 ปี เป็นคนงานชาวเมียนมา อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก บริเวณปากและจมูก
ตรวจสอบที่ร่างผู้เสียชีวิตมีล่องรอยจากการถูกเครื่องจักรบีบอัดบริเวณคอและใบหน้าจนผิดรูปซึ่งจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ผู้ตายสวมใส่เสื้อยืดคอกลม แขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว
สอบถาม นาย สุชาติ ตงเท่ง อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูกล่าวว่า ตอนแรกได้รับแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บสาหัส จึงรีบระดมกำลังเข้าไปดู พร้อมกับหน่วยกู้ชีพขั้นสูงของโรงพยาบาลเจริญกรุง เบื้องต้นทีมแพทย์ประเมินแล้วว่า เสียชีวิต จากเครื่องจักรซึ่งเป็นลักษณะเครื่องที่พิมพ์กระดาษทับ
และเมื่อดูกล้องวงจรปิด ห็นว่าตัวผู้ตายเดินไปตรงเครื่องจักร เหมือนกับว่ามีอะไรติดขัดที่ลูกกลิ้งของตัวเครื่อง ผู้ตายก็จะเดินเข้าไปจังหวะที่เดินเข้าไปเหมือนกับลักษณะที่โดนกดและโดนดูดพร้อมๆกัน
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและทีมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช ได้ทำการ ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าบริเวณกระดูกคอหักได้ขาดออกแต่ตัวเนื้อยังหุ้มอยู่กระดูกด้านในเหมือนโดนตัดขาดจึงเป็นเหตุให้เสียชีวิตตั้งแต่โดนเครื่องกดทับแล้ว
การตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของโรงงานดังกล่าว ก็พบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็จะมีคนงานที่อยู่ภายในโรงงานต่างก็เดินมาดูแล้วก็พยายามที่จะเข้าช่วยเหลือคนงานผู้เคราะห์ร้ายดังกล่าวแล้ว แต่ก็สายไปแล้วไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะเนื่องจากเครื่องจักรดังกล่าวเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่และเมื่อเดินเครื่องกดทับกระดาษแล้วก็จะมีกำลังและแรงกดทดอย่างมากจึงเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตคอหักทันทีเมื่อถูกแรงบีบอัดเข้าที่บริเวณลำคอ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าถือว่าเป็นอุทาหรณ์ที่เตือนสติ อย่าประมาทเลินเล่อในการทำงาน และการปฏิบัตรงานทุกครั้งควรที่จะมีผู้ชำนาญงานคอยดูแลอยู่ตลอดเวลาในการทำงาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
Advertisement