ฟันธงมวลน้ำเหนือหยุดที่จ.นครสววรค์ น้ำท่วม 67 ไม่ซ้ำรอยปี 54 แน่

“ดร.รอยล” ฟันธงมวลน้ำเหนือไม่ใหญ่ หยุดที่นครสวรรค์ ไม่เข้ากรุงเทพฯ เหมือนปี 54 แน่ ส่วนคนลุ่มเจ้าพระยา ควรกังวลฝนในพื้นที่มากกว่าน้ำเหนือ  

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ดร.รอยล จิตรดอน ที่ปรึกษาสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ออนไลน์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น โดยเล่าสั้นๆ ว่าตอนนี้มวลน้ำก้อนนี้อยู่ที่สุโขทัยกับพิษณุโลก โดยมวลน้ำก้อนนี้ไม่น่ากังวล เพราะไม่ใช้มวลก้อนใหญ่ น้ำไม่มาก ตอนนี้ก็ถูกตัดลงไปที่เขื่อนสิริกิติ์ เป็ดเสร็จน่าจะพันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร น่าจะมาหยุดที่จังหวัดนครสวรรค์ หลังจากที่น้ำบางส่วนแบ่งไปที่จังหวัดพิจิตร  และที่บึงบอเพชรและบึงสีไฟ แต่ถ้าพูดถึงปี 2554 เราพูดถึงมวลน้ำ 15,000 ล้านลูกบาสก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำปี 54 เยอะกว่าปี 67 อยู่มาก ซึ่งอาจารย์ยืนยันว่า ยังไงน้ำก็หยุดที่นครสวรรค์มาไม่ถึงกทม.แน่นอน

ส่วน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ยังไม่ต้องกังวลมวลน้ำจากภาคเหนือ เพราะน้ำไม่มาก แต่ต้องระวังฝนในพื้นที่ของตัวเอง ส่วนคนกรุงเทพฯ ยังไม่ต้องกังวล เพราะน้ำมาไม่ถึงกทม. อยากให้เช็คข้อมูลผ่านทางแอปพลิเคชั่น Thai Water หรือเว็บไซต์ก็ได้ แต่เมื่อเทียบข้อมูลน้ำตอนนี้ไม่ถึง 20% ของปี 2554 เพราะปริมาณน้ำที่วิ่งต่างกัน ปี 54 วิ่ง 5 พันลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนปีนี้น้ำวิ่งที่ 1 พันลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณดูว่า น้ำจะมาอย่างไรอีก 80% แต่สิ่งที่คนกทม.ควรกังวล คือฝนในภาคกลาง อย่างในกทม. ซึ่งเกิดจากความร้อนและกิจกรรมของคนในกทม.

ส่วนที่เห็นคำเตือนบอกว่าน้ำทะเลหนุนสูงช่วง 30 สิงหาคม ถึง 5 กันยายนนี้ให้รีบเก็บของขึ้นที่สูง ตรงนี้ดร.รอยลวิเคราะห์ว่าเนื่องจากกระแสลมในอ่าวไทยสูงกว่าปกติเป็นผลจากภาวะโลกร้อน หรือ Climate Change แล้วก็เริ่มสูงอย่างปี 2554 ตอนจะเร่งระบายน้ำช่วงเดือนพฤศจิกายน ตอนนั้นมีน้ำทะเลต้าน ทำให้ระบายน้ำได้ช้า ส่วนถ้าปี 67 จะท่วมนั้น ต้องมี 2 อย่างประกอบกัน คือ น้ำเหนือต้องเยอะ และน้ำทะเลหนุนสูงรวมกันไป