พิจิตร วางมาตรการป้องกัน รับมือมวลน้ำ ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ตัวจังหวัดแล้ว หลังจากปักธงแดง เตือน ปชช.ลุ่มแม่น้ำยม ล้อมกระสอบทราย โรงเรียน-รพ.สต. จัดเวรยามเฝ้าระวังน้ำ 24 ชม.
วันที่ 2 ก.ย. 67 สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พิจิตร นาย อดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือสถานการณ์น้ำที่กำลังมาถึง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งการประชุม มีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่รับน้ำเข้าร่วมด้วย เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาและการป้องกัน
โดยนายอดิเทพได้สั่งการให้ทุกหน่วยมีความพร้อม รับมือมวลน้ำเหนือที่ในขณะนี้เริ่มเข้าสู่ จ.พิจิตรแล้ว หลังจากที่มีการปักธงแดง เพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนประชาชนและสั่งการให้ทุกอำเภอ และทุกหน่วยงานทำการปักไม้วัดระดับน้ำในทุกพื้นที่ของตนเอง เพื่อดูอัตราการขึ้นลงของน้ำ เพื่อประเมินสถานการณ์
และให้ทุกพื้นที่ที่มีโรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ทำการล้อมกระสอบทราย ก่อนที่ระดับน้ำจะเข้าท่วมถึง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง และวางมาตรการป้องกันช่วยเหลือออกเป็น 3 ช่วงๆ ช่วงละ 7 วัน เพื่อประเมินสถานการณ์ และให้ใช้การกอบกู้พืชผลทางการเกษตรที่ถูกจมน้ำเสียหายของ จ.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง มาเป็นโมเดลในการช่วยเหลือ เนื่องจากสามารถช่วยเหลือชาวนาได้หลายพันไร่
ในขณะที่สถานการณ์น้ำทางด้านแม่น้ำยมพิจิตร นายสมยศ เอมใจ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ประทับช้าง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำยม บริเวณหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9 ต.วังจิก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตอำเภอโพธิ์ประทับช้าง พบว่ามวลน้ำที่ไหลจากตอนบนที่ไหลเข้าสู่พื้นที่ จ.พิจิตร เริ่มส่งผลกระทบ โดยน้ำที่มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ได้เอ่อท่วมบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ
เบื้องต้นท่วมขังแล้วประมาณ 50 หลังคาเรือน ระดับน้ำ 60-80 เซนติเมตร และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อ งการช่วยเหลือเบื้องต้นร่วมกับอำเภอโพธิ์ประทับช้างสำรวจข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงจัดเตรียมเรือท้องแบนอุปกรณ์สำหรับการช่วยเหลือในกรณีประชาชนต้องการความช่วยเหลือเพื่ออำนวยความสะดวกต่อไป
สำหรับแม่น้ำยมไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.พิจิตร ได้แก่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง และอ.โพทะเล ความยาวในพื้นที่จังหวัดพิจิตร 127 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ลุ่มแอ่งกระทะ
Advertisement