โผล่อีก!หนุ่มสอบติดกรมราชทัณฑ์ ดีใจลาออกจากงานเก่าเรียบร้อย สุดท้ายแห้ว เจ้าหน้าที่แจ้งวุฒิไม่ตรงปก ไม่ได้บรรจุ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 กันยายน 67 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุรินทร์ นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพด้านพ่อบ้าน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กรณีที่สอบผ่านการคัดเลือกเป็นข้าราชการ กรมราชทัณฑ์ ทั้งหมดแล้ว แต่ภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าคุณสมบัติวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามหลักเกณฑ์
นายสุรินทร์ เล่าว่า ตนเองได้ไปสมัครสอบหลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ประกาศประกาศสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่ง เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฎิบัติงาน (งานควบคุมผู้ต้องขังชายและอื่นๆ) จำนวน 221 อัตรา แต่ภายหลังประกาศรับเพิ่มเป็น 700 อัตรา ซึ่งมีจำนวนผู้สมัครสอบทั้งหมด 4,609 คน
โดยตนเองได้สอบเลือกไว้ 4 อันดับ อันดับที่ 1 คือเรือนจำกลางนครปฐม อันดับที่ 2 เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี อันดับที่ 3 เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี และ อันดับที่ 4 เรือนจำกลางบางขวางจังหวัดนนทบุรี
จากนั้นไดัมีการสอบข้อเขียนภาค ก.(การสอบเพื่อวัดความสามารถทั่วไป) และภาค ข.(การสอบภาคความสามารถเฉพาะตำแหน่ง) ในวันที่ 27 มกราคม 2567 และสอบภาค ค. วันที่ 10-11 มีนาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และประกาศผลสอบ 4 เมษายน 2567 ซึ่งก็สอบผ่านได้ลำดับที่ 153 จะได้บรรจุทึ่เรือนจำกลางนครปฐม ซึ่งเป็นลำดับที่หนึ่งตามที่ยื่นสมัครสอบไป
ต่อมาวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ได้มีการเรียกรายงานตัวที่กรมราชทัณฑ์ จังหวัดนนทบุรี และ นัดให้ไปรับหนังสือรายงานตัวที่กรมราชทัณฑ์ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2567
แต่ปรากฏว่าวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ฝ่ายสรรหาและบรรจุโทรศัพท์มาแจ้งว่าวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร คือ ต้องจบการศึกษาระดับอนุปริญญาตรีหลักสูตร 2 ปี ซึ่งตนยืนยันว่าวุฒิการศึกษาของตนเองตรงตามหลักเกณฑ์ในการสอบ คือประกาศนียบัตรวิชาการการศึกษาชั้นสูง หรือ ป.กศ.สูง ซึ่งเป็นระดับเดียวกับอนุปริญญา จากนั้นก็ได้นำหนังสือรับรองจากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตสมุทรสาคร ไปยื่นยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับอะไรกลับมา
กรณีที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากหลังจากทราบว่าสอบผ่านทุกอย่างแล้ว ก็ได้ไปทำเรื่องลาออกกับทางกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 พอสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าจะเยียวยาตนอย่างไรได้บ้าง ก็ได้รับคำตอบว่าจะประสานให้ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม หากมีตำแหน่งว่างจะแจ้งให้ไปสอบคัดเลือกพนักงานราชการ หรือจ้างเหมา เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมต้องกลายเป็นคนตกงาน สูญเสียโอกาส ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ได้มาเป็นพนักงานของ อบต.แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม ได้รับเงินเดือน 9,500 บาทแทน จึงมาร้องกับมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อหาหนทางช่วยเหลือ
เบื้องต้นนายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่นายสุรินทร์ โดยเห็นว่าทางกรมราชทัณฑ์ ควรตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครให้ละเอียด ก่อนจะให้มีการสอบ ซึ่งในกรณีนี้วุฒิการศึกษาเข้าหลักเกณฑ์แต่กลับไม่ได้รับการบรรจุ.
Advertisement