พร้อมพงศ์ หอบหลักฐาน ลุงป้อม หนักสุด ลากิจตลอดสมัยประชุมสภาฯ ฉะ กินภาษีประชาชน ลาออกไปเถอะ เตรียมร้องป.ป.ช.สอบจริยธรรมต่อ
วันที่ 25 ก.ย. 67 ที่รัฐสภา นาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดหลักฐานการลาประชุมสภาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า จากข้อมูลวันลาของ พล.อ.ประวิตรที่ได้มาจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.66 - 19 ก.ย. 67 มีการประชุม 95 ครั้ง พล.อ.ประวิตรลาทั้งหมด 84 ครั้ง เป็นลาป่วยหนึ่งครั้ง และลากิจ 83 ครั้ง
และตั้งแต่สมัยประชุมวันที่และในปีนี้ 3 ก.ค. 67 - 19 ก.ย. 67 มีการเรียกประชุม 27 ครั้ง พล.อ.ประวิตรไม่มาประชุมเลย หรือมาประชุมเป็น 0 ครั้ง
นอกจากนี้ยังเปิดเผยข้อมูลด้วยว่าในวันที่ 8 ส.ค. พล.อ.ประวิตรอ้างลาติดภารกิจ แต่ปรากฏต่อมาว่าวันดังกล่าว พล.อ.ประวิตรเปิดบ้านป่ารอยต่อให้แกนนำเข้าอวยพรวันเกิด และวันที่ 29 ส.ค. ขาดประชุม ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตรไปประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และวันที่ 14 ก.พ 67 ลาติดภารกิจ ปรากฎว่า ไปทำบุญฝั่งลูกนิมิตที่ จ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตการลาหลายครั้งเป็นการไปประชุมพรรค หรือไปเชียร์วอลเลย์บอล
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าสำหรับวันที่ พล.อ.ประวิตรมาประชุม ซึ่งมี 11 ครั้ง มีการเซ็นชื่อประชุมอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะจากแหล่งข่าวที่ตนตนเองได้มาระบุว่า พล.อ.ประวิตรโฉบรถมาเซ็นชื่อ โดยที่ไม่ลงจากรถ และนำบัตรประจำตัว สส.ให้คนอื่นไปสแกน จึงตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวจะผิดจริยธรรม และเข้าข่ายผิด รัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งตนเองจะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ช่วยตรวจสอบเพื่อค้นหาความจริงในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองทำหน้าที่ในฐานะประชาชน โดยไม่มีอคติ และไม่มีเรื่องโกรธแค้นกับ พล.อ.ประวิตรมาก่อน อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการใส่ร้ายป้ายสี แต่เป็นข้อเท็จจริง โดยเอกสารส่วนหนึ่งที่ผู้ร้องร้องมายังตนเองหลายคน และสอดคล้องกับเอกสารที่ตนเองรับมาจากฝ่ายสภาฯ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มอบให้ วันขาดวันลาได้มีการตรวจสอบทำการหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 40 (2) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรเป็น สส.กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เดือนละ 113,560 บาท หากรวมกับบุคคลที่ สส.แต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่รวมเดือนละ 242,560 บาท ไม่รวมค่าเบี้ยประชุมกรรมาธิการค่าเดินทางค่าที่พัก ถามว่าการทำงานคุ้มกับเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชนหรือไม่
ดังนั้นขอเรียกร้อง พล.องประวิตรและวิงวอน ถ้าลาแบบนี้ ลาออกเถอะ ลาออกจากความเป็น สส. แล้วเลื่อนคนรุ่นใหม่ที่อยู่ลำดับต่อไปขึ้นมาทำหน้าที่ เพื่อให้ สส.ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติสง่างาม ไม่ฉะนั้นจะเป็นโมฆะบุรุษ หรือบุคคลที่ล้มละลายทางการเมือง
ส่วนที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บอกจะไปแจ้งความดำเนินการตนเองก็ไม่กลัว และถ้าฟ้องมาก็จะฟ้องกลับ และไม่ฟ้องนายไพบูลย์คนเดียว แต่จะฟ้อง พล.อ.ประวิตรด้วย
Advertisement