"รองนพศิลป์" จี้ "สันติ" อดีตนักมวยหลบหนีหมายจับ รีบมอบตัวโดยเร็ว “อย่าทําผิดมากกว่านี้” ลั่น! ใครช่วยถูกดําเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณี นาย สันติ เจ๊ะอะหลี อายุ 39 ปี อดีตนักมวยชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ขัดขืนการจับกุม และพยายามต่อสู้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีไปเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา และยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 4 ต.ค. 67 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล แถลงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์บ้านหลังหนึ่ง บนถนนประชาราษฎร์ สาย 2 พื้นที่เขตบางซื่อ เป็นปืนลูกโม่ .38 กระสุน 50 นัด และทรัพย์สินอื่นๆ จากการสืบสวนพบผู้ก่อเหตุคือ นายสันติ ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องคือนายปาล์ม ตํารวจจับกุมได้แล้ว
ต่อมาตํารวจ สน.เตาปูน ได้รวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา (3 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ซุ้มรอจนพบนายสันติออกมาจากห้องพัก ภายในซอยอินทามระ 29 แยก 3 แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดทางหลบหนีไปท้ายซอย ก่อนจะปีนข้ามกําแพงและเข้าไปหลบซ่อนในบ้านพักของประชาชน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสนธิกําลังร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องพร้อมประสานขอชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมานและอรินทราช 26 เข้าพื้นที่ร่วมในการปิดล้อม โดยคํานึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก กระทั่งประมาณ 23.30 น. มีพลเมืองดีแจ้งว่านายสันติได้หลบหนีออกไปจากบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบภายในบ้านและสามารถช่วยตัวประกัน 2 คนออกมาได้สําเร็จ ขณะที่ภรรยาของนายสันติ ได้ก่อเหตุใช้ปืนจ่อตัวเอ งเนื่องจากความเครียดก่อนวิ่งขึ้นรถสายตรวจ และขู่ให้พาไปส่งที่บ้านใน จ.อุบลราชธานี ก่อนเปลี่ยนไปยังบ้านญาติย่านคลอง 3 จนสุดท้ายยอมมอบตัวในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสอบสวนเจ้าตัวบอกว่าทําไปเพราะความเครียด ส่วนจะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจให้นายสันติหลบหนีหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวน
พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ผู้ใดที่ให้การช่วยเหลือหรือที่พักพิงถือว่ามีความผิด หากพบเจอขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เนื่องจากผู้ต้องหามีอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมกระสุนจํานวนมาก รวมถึงหากเจ้าหน้าที่พบเห็นขอให้เร่งทําการจับกุมโดยปฏิบัติตามยุทธวิธีและหลักของกฎหมายอย่างเคร่งคัด พร้อมฝากถึงนายสันติด้วยว่า “อย่าทําผิดมากกว่านี้ กลับตัวเป็นคนดีสังคมให้อภัยเสมอ”
Advertisement