“เอก สายไหมต้องรอด” แจงประเด็นนำพยานเก๊ให้ข้อมูลคดี “ดิ ไอคอน” ยืนยัน ช่วยเพราะหวังดี ไม่มีเจตนาแฝง ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับตำรวจ
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา (25 ต.ค.67) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งมูลนิธิสายไหมต้องรอด ชี้แจงประเด็นที่พาพยาน หรือพลเมืองดีเข้าให้ข้อมูลการโยกย้ายทรัพย์สินที่เป็นเงินดิจิตอล แต่สุดท้าย ตำรวจบอกว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และไม่เป็นความจริง อาจทำให้ถูกทนายความและตำรวจดำเนินคดี
นายเอกภพ ยืนยันว่า ตนเองมีเจตนาบริสุทธิ์ ที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อ The iCon ด้วยเจตนาดี ไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ได้ต้องการทะเลาะกับทนาย หรือโจมตีดิสเครดิตการทำงานของตำรวจ สิ่งที่ตนเองทำ ก็เพราะว่ามีผู้เสียหาย และมีผู้ให้ข้อมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตนเองเชื่อว่าข้อมูลจากผู้เสียหาย และประชาชนเหล่านี้ เป็นข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่ จึงตัดสินใจพาพยานไปให้ข้อมูล เช่นเดียวกับพยานที่พาไปเมื่อ 2-3 วันก่อน
สำหรับพยานรายนี้ ได้เข้ามาให้ข้อมูลตนเองเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ของบรรดาบิ๊กบอส ที่อาจมีการยักย้ายถ่ายเท โดยบิ๊กบอสบางคนมีทรัพย์สินลักษณะเป็นสกุลเงินดิจิตอล ตนเองคิดว่าน่าสนใจ และน่าจะเป็นประโยชน์กับตำรวจ ทั้งนี้ ตนเองอยากขอโทษตำรวจ และทนายของ The iCon หากทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมน้อมรับหากต้องถูกดำเนินคดี แต่ขออย่าไปดำเนินคดีกับพยาน ถ้าจะดำเนินคดี ก็ให้มาดำเนินคดีกับตนเองเพียงผู้เดียว
เมื่อถามว่าเหมือนการฟ้องปิดปากหรือไม่ นายเอกภพ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่น่ากังวล ตนเองเชื่อว่ายังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่อยากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ก็ต้องมากังวลว่าจะถูกฟ้องร้องกลับหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าถ้าหากอนาคต สิ่งที่ตนเองร้องเรียนเป็นความจริง ตนเองก็จะโดนด่าอยู่ดีว่า ทำไมถึงไม่ช่วยเหลือ ทำไมไม่เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน จากนี้คงต้องเพิ่มการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนให้มากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันก็ได้ตรวจสอบเข้มข้นอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นายเอกภพ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้สังคมดีกว่านี้ ตนเองอยากจัดการบรรดาพวกเทวดา ที่ทำให้สังคมเละเทะ เรียกรับผลประโยชน์ ทุจริตคอร์รัปชัน ถ้าเป็นไปได้ตนเองอยากจัดการพวกเทวดามากกว่า.
Advertisement