ศาลยกฟ้อง “อัจฉริยะ” 2 คดี หมิ่นผู้การจ๋อ-พงส.แจ้งความเท็จคดีแตงโม

ศาลยกฟ้อง“อัจฉริยะ” 2 คดี หมิ่นผู้การจ๋อ-พงส.แจ้งความเท็จคดีแตงโม เจ้าตัวลั่น จ่อฟ้องกลับ เตรียมเอาคืนเป็น 10 เท่า

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าห้องเพื่อฟังคำพิจารณาคดี ประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ในเบื้องต้นผลพิจารณาคดีทั้ง 2 คดี ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้อง ซึ่งในส่วนของคดีที่ พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธี หรือ “ผู้การจ๋อ” ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ยื่นฟ้องตนนั้นในฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น

ศาลพิจารณามีความเห็นว่า พล.ต.ต.ธีรเดช ได้มีการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ ของพันตำรวจโทมานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ และพวกรวม 4 คน และมีการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลยังเห็นอีกว่าในส่วนที่ตนทำมีประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

ในส่วนของคดีที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ตำรวจภูธรภาค 1 รวม 27 นาย ได้มีการยื่นฟ้องตนในข้อหาแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท ศาลก็พิจารณายกฟ้องตนเช่นกัน โดยมีคำพิพากษาว่า เป็นการใช้สิทธิ์โดยสุจริต และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

ทั้งนี้ ตนอยากจะบอกคนทั้งประเทศว่า คดีของแตงโมนั้น “แตงโม” ได้รับความเป็นธรรมแล้ว เพราะในคำพิพากษาของศาลมีการระบุไว้ชัดเจนไว้ 2 ประเด็นว่า บาดแผลของแตงโม ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ รวมถึงกรณีที่ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ กล่าวอ้างว่าแตงโมมีการไปปัสสาวะท้ายเรือจนทำให้ตกเรือนั้นไม่เป็นความจริง แล้วยังมีเรื่องของการแก้ไขจุด GPS ที่ติดกับเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนแก้ไขทำให้เชื่อได้ว่าทางตำรวจมีการเอื้อประโยชน์ให้กับคนบนเรือ โดยคาดว่า อีก 10 วันหลังจากนี้จะมีการนำคำพิพากษาดังกล่าวมาเปิดเผย

นายอัจฉริยะ ยังบอกว่านอกจากนี้ ยังมีคดีที่ตนถูกฟ้องในฐานหมิ่นประมาทอีกประมาณ 4-5 คดี ที่จะตามมา ตนก็เชื่อว่าจะชนะคดีเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะมีการฟ้องกลับตำรวจทั้ง 27 นาย ที่ได้ยื่นฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาทนี้อย่างแน่นอน ซึ่งต้องรอให้คำพิพากษาถึงที่สุดก่อน พร้อมกล่าวว่าจะเอาคืนเป็น 10 เท่า

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “ผู้การจ๋อ” ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)  ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งเฉย ระบุว่า วันนี้เป็นเพียงแค่ศาลชั้นต้น คงต้องให้เป็นหน้าที่ของทนายความที่จะดูแลเรื่องในเรื่องข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงในการยื่นอุทธรณ์ต่อไป ก็ยังมีความเชื่อมั่นในการขบวนการยุติธรรม และในความเชื่อของตนเอง จำเลยจะต้องได้รับสิ่งที่กระทำไว้ในอนาคต

พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า หลังจากนี้ก็จะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อเพราะยังมีข้อเท็จจริงบางอย่าง หรือความคิดเห็นบางอย่างที่ยังไม่ตรงกัน เมื่อถามว่าในชั้นอุทธรณ์ หลักฐานที่เตรียมไว้จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นางสาวอาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ทนายความ ระบุว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดตอนนี้อยู่ในสำนวนของศาล ซึ่งส่วนตัวก็มีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และลายลักษณ์อักษร ต่อไปก็จะเป็นกระบวนการของกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องใช้เวลาในการขอคัดถ่ายเอกสาร เพื่อที่ใช้ในการยื่นอุทธรณ์

เมื่อถามว่ายังคงเป็นพยานหลักฐานเดิมจะไม่มีการขออุทธรณ์ให้หาหลักฐานใหม่ใช่หรือไม่ นางสาวอาชิรญาณ์ ระบุว่า เราคิดว่าพยานหลักฐานของเราเพียงพอแล้ว

เมื่อถามว่าภายใน 1 เดือน จะสามารถเขียนเสร็จทันหรือไม่ นางสาวอาชิรญาณ์ กล่าวว่า ยังคงต้องรอการคัดถ่ายเอกสาร ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้เมื่อไหร่ และย้ำว่ามั่นใจในพยานหลักฐานมาก