มาเลเซียเล็งดึงภาษีบุหรี่ไฟฟ้าหนุนรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน
มาเลเซียเล็งดึงภาษีบุหรี่ไฟฟ้าหนุนรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน
คอนเทนต์แนะนำ
มูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ (Southeast Asia Tobacco Control Alliance หรือ SEATCA) จี้รัฐบาลมาเลเซียให้จัดสรรรายได้ภาษีบุหรี่ไฟฟ้าครึ่งหนึ่งเพื่อให้รณรงค์ป้องกันเยาวชนจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
นาง แทน เยน เลียน (Tan Yen Lian) ผู้ประสานงาน SEATCA ประจำประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีบทบาทในการรณรงค์ต่อต้านบุหรี่ในภูมิภาคอาเซียน เผยภายหลัง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบเพื่อสาธารณสุข 2024 หรือ พ.ร.บ. 852 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยพ.ร.บ.ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อห้ามขายและซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบ วัสดุสำหรับการสูบบุหรี่ และสารทดแทนยาสูบ รวมถึงผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าแก่เยาวชน ว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย. 2021-มิ.ย.2024 มาเลเซียมีรายได้จากภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามากถึง 141.1 ล้านริงกิต (ประมาณ 1 พันล้านบาท) แม้ตัวเลขนี้เป็นจำนวนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมยาสูบที่มีมูลค่า 3.5 พันล้านริงกิต (ประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท) หากเราจัดสรรรายได้ภาษีนี้อย่างน้อย 70 ล้านริงกิต (ประมาณ 500 ล้านบาท) ให้กับกระทรวงสาธารณสุข ก็จะสามารถสนับสนุนการรณรงค์ป้องกันและควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินในกลุ่มเยาวชนได้มีประสิทธิภาพขึ้น”
“เราจำเป็นต้องมีงบประมาณจำนวนมาก เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินโครงการสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน เพื่อบรรเทาอันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เช่นเดียวกับที่รัฐบาลออสเตรเลียได้เปิดตัวแคมเปญสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่า 63 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยมุ่งเป้าไปที่เยาวชนที่มีความเสี่ยงในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า”
ดร.กัลวินเดอร์ สิงห์ ไครา ประธานสมาคมการแพทย์มาเลเซีย กล่าวว่า“การบังคับใช้กฎหมายจะต้องสอดคล้องและครอบคลุมทุกด้าน เรากังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งถูกปล่อยให้ดำเนินไปโดยไม่มีการควบคุม”
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์บุหรี่เพื่อสาธารณสุข หรือ พ.ร.บ. 852 ที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศใช้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากควบคุมการขายบุหรี่แก่เยาวชนอย่างเข้มงวดแล้ว บทบัญญัติดังกล่าวยังรวมถึงการโฆษณา การส่งเสริมการขาย และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์สูบบุหรี่ทุกประเภท ตลอดจนเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่ห้ามขายผลิตภัณฑ์สูบบุหรี่ เช่น สถาบันการศึกษา ตลาดการขาย ช่องทางออนไลน์ และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติอีกด้วย
Advertisement
