สาวแจ้งจับสแกมเมอร์ สวมรอย "แจ็คสัน หวัง" หลอกเสียหายรวม 5 ล้านบาท

สาวแจ้งจับสแกมเมอร์แสร้งรักออนไลน์ สวมรอยเป็น "แจ็คสัน หวัง" ศิลปินดัง หลอกยืมเงินซ่อมเครื่องบินเจ็ท เสียหายรวม 5 ล้านบาท

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ หน้าตลาดนัดรถไฟ (แดนเนรมิตเก่า) ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี นักลงทุนด้านการเงิน เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีแก๊งสแกมเมอร์ แอบอ้างเป็น แจ็ค สันหวัง ศิลปินนักร้องระดับโลกหลอกสมัครสมาชิกแฟนคลับวีไอพี และหลอกยืมเงิน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

น.ส.เอ กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2566 ได้เข้าไปเล่นแอปพลิเคชัน tiktok พบคลิปนักร้องคนดังกล่าวจึงกดถูกใจ จากนั้นบัญชีดังกล่าวก็ได้ทักมาตีสนิท โดยคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ตนจึงบอกไปว่าไม่เชื่อเป็นศิลปินดัง เขาจึงวิดีโอคอลมาหา ต่อมาเขาชวนสมัครสมาชิกแฟนคลับวีไอพี ได้รับสิทธิ์บินไปชมคอนเสิร์ตแบบใกล้ชิดศิลปินหลังเวที ช่วงแรกก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่เคยรู้จักนักร้องคนนี้มาก่อน แต่เขาพยายามทักทายมาพูดคุยทำนองเชิงชู้สาวหลายครั้ง พร้อมทั้งส่งคลิปการแสดงคอนเสิร์ต ภาพโฆษณา จึงใจอ่อนยอมสมัครสมาชิกโดยเขาให้โอนเงินเป็นสกุลคลิปโตฯ ไป 7 หมื่นกว่าบาท จากนั้นก็มาชวนลงทุนขอยืมเงินซ่อมเครื่องบินเจ็ทรวมทั้งค่าปลดล็อคระบบโทรศัพท์ไอโฟน โดยโอนให้ตั้งแต่เดือน มี.ค. -พ.ค.2566 รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ระหว่างที่ติดต่อกันเขาพูดคำหวาน ให้ความหวังว่าจะมาใช้ชีวิตกับเรา พร้อมทั้งรับปากว่าจะโอนเงินคืนมาให้หลายเท่าที่โอนไปให้เขา แต่ช่วงหลังพอไม่มีเงินจะโอนให้อีก เขาเริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป แต่ก็ยังทักมาขอยืมเงินตลอด เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงจึงแจ้งความออนไลน์ไว้ แต่ผ่านมาหลายเดือนคดีไม่คืบ จึงติดต่อจ่าคิงส์ เข้าช่วยเหลือดังกล่าว

เงินทั้งหมดที่โอนให้เขาเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายในชีวิต และเงินแม่ที่ป่วยด้วย หลังเกิดเรื่องรู้สึกเครียดมากๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เคยคิดสั้นจะโดดแม่น้ำตาย และให้รถไฟฟ้าทับ เพราะเงินทั้งหมดที่เก็บออมไว้หายไปในพริบตา ซ้ำยังมาทำให้แม่ที่ป่วยต้องเดือดร้อนอีก

ด้านจ่าคิงส์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเข้าพบพนักสอบสวน บก.ปอท.เพื่อให้ปากคำพร้อมนำหลักฐานการโอนเงินมามอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเงินที่ผู้เสียหายโอนไปเข้าบัญชีของใคร ก่อนดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย.