วันที่ 18 พ.ย.67 หลังจาก เพจกำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ ได้รับแจ้งข้อมูลจากสมาชิกในกลุ่มว่า มีที่พักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร จัดกิจกรรมแปลก อ้างว่าสามารถสอนหูทิพย์ตาทิพย์ให้กับเด็กๆ ได้ โดยผู้ที่สำเร็จวิชาตาทิพย์จะสามารถมองเห็นแม้ปิดตา และยังใช้ร่างของผู้เสียชีวิตมาประกอบกิจกรรม จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตให้ดำเนินการถูกต้องหรือไม่ เพราะชาวบ้านเกิดข้อสงสัย และเกรงว่าร่างของผู้เสียชีวิตที่นำมาประกอบกิจกรรมจะทำให้เกิดโรคระบาดได้
โดยเพจของสำนักสงฆ์ที่ถูกร้องเรียน ได้โพสต์คลิปโดยให้เด็กหญิงและเด็กชายใช้ผ้าปิดตา และให้ทายตัวเลขและข้อความในกระดาษที่เขียนไว้ ต่อหน้าผู้ที่มาปฎิบัติธรรมในที่พักสงฆ์ ทำให้หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องแปลกใจ และเชื่อว่าเป็นการเรียน “ตาทิพย์ หูทิพย์” โดยให้เด็กชายพูดเชิญชวนว่าเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์มีอยู่จริง ซึ่งมีบางคลิปได้ปิดตาเด็กผู้ชาย และกดพิมพ์ข้อความตามคำบอกของพระสงฆ์ในแทบเล็ต หลายคลิปที่ปิดตาแล้วให้เด็กบอกตัวเลขในกระดาษ และบางคลิปให้เด็กผู้หญิง ปิดตาปั่นจักรยานไปตามทาง โดยไม่ชนสิ่งกีดขวาง นอกจากนี้ยังมีฝึกกรรมฐานเกี่ยวกับศพจริงๆด้วย
ล่าสุดนายวรรธน์ ฉายอภิรักษ์ นายอำเภอภาณุวรรณลักษบุรี พร้อมด้วยสำนักพุทธฯ บ้านพักเด็กจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสลกบาตร แอดมินเพจกำแพงเพชรร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่ สำนักงานสาธารณสุข เจ้าคณะตำบล ผู้นำท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พบว่าภายในสำนักมีพื้นที่จำนวน 92 ไร่ มีพระสงฆ์ 4 รูป แม่ชีจำนวน 4 คน ไม่พบเด็กๆที่ปรากฏในคลิป พบเพียงมีผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่ในศาลาจำนวน 3 คน
ทางด้าน พระปราโมธสุจิธนธัมโม หัวหน้าที่พักสงฆ์ ระบุว่า คลิปที่ปรากฏในข่าวนั้นเป็นของเก่า ตนไม่เคยสอนเรื่องตาทิพย์-หูทิพย์ น่าจะเป็นพระรุ่นเก่า ซึ่งตนไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากเพิ่งมาจำวัดอยู่ที่นี่เพียง 2-3 ปีเท่านั้น ส่วนพระที่ปรากฏอยู่ในคลิปตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว ออกพรรษาแล้วสึกไปแล้ว ส่วนกรณีศพผู้เสียชีวิต ก็จะมีญาติโยมที่มาปฎิบัติธรรมถวายร่างให้แล้ว มีการทำหนังสือซึ่งได้รับอนุญาตจากญาติให้มาถวายร่างให้มาเป็นอาจารย์ใหญ่ 2 ปี ซึ่งจะมี 4 ปี หรือ 5 ปีก็มี ซึ่งเมื่อถึงกำหนดญาติเขาจะรับศพกลับไป ที่เหลืออยู่ตอนนี้จะมีแต่โครงกระดูก ซึ่งตอนนี้ทางรองเจ้าคณะอำเภออนุญาตให้มีแค่โครงกระดูกได้ และด้านทางนายอำเภอได้อนุญาตให้มีเพียงโลงทองตั้งอยู่ จะทำให้เกิดความกลัวเป็นการฝึกจิต และทางรองเจ้าคณะอำเภอได้ร้องขอให้ฝึกเฉพาะผู้ใหญ่กับแม่ชีและพระ ซึ่งทางเราจะงดของเด็ก งดสอนตาทิพย์ ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ทุกที่ โดยทางหน่วยงานให้งด ไม่ให้สอนก็จะงดไป ซึ่งจริงๆแล้วเป็นชาญขั้นแรก ส่วนเรื่องที่เป็นความจริงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่จิต ถ้าเป็นเด็ก เด็กเป็นจิตที่สะอาดอาจจะได้ผล ส่วนผู้ใหญ่ผ่านอะไรมาเยอะจิตไม่ใสเหมือนของเด็ก ดังนั้นในเมื่อทางผู้ใหญ่ขอร้อง เราให้หยุดเราก็ต้องหยุด
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ทางวัดเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ โดยให้สอนกับพระและแม่ชีและประชาชนที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้น ไม่ให้สอนกับเด็กและเยาวชน พร้อมให้ยุติการสอนตาทิพย์ หูทิพย์เด็ดขาด โดยต้องจัดการขออนุญาตสร้างสำนักสงฆ์ให้ถูกต้องตามระเบียบของสำนักพุทธ ส่วนเรื่องโลงและศพ จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยทางอำเภอเตรียมบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.สุสานและฌาปนสถาน ซึ่งจากนี้อาจต้องมีโทษปรับตามกฏหมาย เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ได้ทำบันทึกข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปฏิบัติตามอย่างเครงครัด
ด้านนายพิพัฒน์ บุญคุ้มอยู่ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า หลังจากที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วกับทุกฝ่าย ก็ได้แจ้งให้สำนักสงฆ์ทราบว่าวิธีการสอนนั้นทำให้สังคมมองว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งก็ให้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ ซึ่งภาพที่ออกสื่อนั้น เจ้าสำนักสงฆ์แจ้งว่าเป็นภาพเก่าเอาไปลงโซเชียล ที่ไม่ได้มีการใช้ต่อแล้ว ส่วนเรื่องศพก็แจ้งให้ดำเนินการตามระเบียบให้ถูกต้อง ซึ่งได้จะได้ประสานพระผู้ใหญ่ที่อยู่จังหวัดพิจิตร ที่ก่อตั้งทำให้ถูกต้อง โดยยังเป็นสำนักสงฆ์เถื่อนอยู่ตอนนี้
ขณะที่ลูกศิษย์วัดได้พาผู้สื่อข่าว เดินเข้าไปดูบริเวณที่ใช้นั่งพิจารณาศพ ระหว่างทางที่เดินเกือบ 2กิโลเมตร มีเศษของวัตถุ เทวรูป ศาลพระภูมิ ที่พังเสียหายอยู่ทั้งสองฝั่งข้างทางและเป็นป่ารกทืบ โดยพาไปดูจุดที่เป็นโลงเปล่า และจุดที่มีศพของพระสงฆ์ ที่เคยอยู่ในที่พักสงฆ์และถวายร่างเป็นครูใหญ่ให้ปฎิบัติธรรม
ด้านลูกศิษย์สำนักสงฆ์ เล่าว่า เรื่องการมอบศพให้มาทำกิจกรรมปฎิบัติธรรมในวัดนั้นส่วนใหญ่จะเป็นความต้องการของญาติผู้ตาย ซึ่งก็ทำอย่างถูกต้อง โดยบางรายไม่มีเงินฌาปนกิจศพก็จะให้ทางสำนักสงฆ์จัดการให้เลย ส่วนศพของอดีตพระสงฆ์ที่ตั้งและพาทุกคนมาดูนี้ ก็เป็นพระที่เคยอยู่ที่สำนักสงฆ์มาก่อนและร่วมก่อตั้งสำนักสงฆ์มาก่อน พอละสังขารก็นำร่างท่านไว้เป็นร่างอาจารย์ใหญ่เลย โดยผู้ที่มาปฎิบัติธรรมในสำนักสงฆ์นั้นก็จะเริ่มจากการมานั่งสมาธิในช่วงกลางวันและฝึกให้นั่งในช่วงกลางคืน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเป็นการฝึกปฎิบัติจิตใจในการเผชิญความกลัวในสถานที่จริง
ส่วนเรื่องการฝึกตาทิพย์หูทิพย์ ตนก็เห็นจากหลายสถานที่ก็ฝึกกัน ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่าสามารถเห็นสิ่งที่บังตาได้ ส่วนสถานที่แห่งนี้ก็มีเด็กที่อื่นมาฝึกไม่ใช่เด็กที่นี่
Advertisement