จากกรณี “ทรัส” หรือตัวยกแผ่นปูนที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม2 โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 1ช่วงที่ 3 พื้นที่ กม.21+600–กม.22+100 ถนนพระราม2 ขาออกกรุงเทพฯ หมู่ที่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ถล่มลงมา ในช่วงเวลา 04.07 น. วันที่ 29 พ.ย. 67 ขณะคนงานกำลังเชื่อมคานปูนเข้าด้วยกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และผู้บาดเจ็บ 9 รายส่งโรงพยาบาล ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. 67 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายธนสาร สิทธาภา ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร นายพรพิสุทธิ์ บุญศิริ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ ปภ.เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงฯ และผู้แทนจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างได้ร่วมกันลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อวางแนวทางจัดการจราจร และการคืนพื้นผิวจราจร ที่ถูกกองวัสดุวางทับไว้
โดยพบว่าช่วงขาออกกรุงเทพฯนั้น มีวัสดุกองเต็มพื้นที่ ต้องใช้ทางเบี่ยงเอกชัยก่อนตัดเข้าถนนพระราม2 อีกครั้ง ส่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ กม.21+600 ใช้ช่องทางคู่ขนานได้ 1 ช่องทาง จึงทำให้สภาพการจราจรยังคงติดขัดเหมือนเดิม ดังนั้นจึงต้องมีการปรับแผนการจราจร เพื่อหาเส้นทางเบี่ยงเพิ่ม และที่สำคัญในระยะเร่งด่วนนี้คือการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับทราบถึงการหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรบนถนนพระราม2 ที่จะต้องผ่านจุดเกิดเหตุ
อีกทั้งยังต้องมีการจัดกำลังตำรวจให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวกทางการจราจรอีกด้วย ส่วนเรื่องของการนำวัสดุเกิดเหตุออกจากพื้นผิวจราจรเพื่อเปิดช่องทางให้รถวิ่งผ่านได้นั้น เบื้องต้นทางวิศวกรของบริษัทฯ บอกว่าจะเริ่มจากฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯก่อน โดยการนำเครนก่อสร้างที่อยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งแม้จะยังคงอยู่ในสภาพที่เห็นว่าเป็นปกติ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากเครนฝั่งที่ล้มลง ดังนั้นจึงต้องออกเป็นอันดับแรก โดยรอรถยกหนัก 500 ตัน เข้ามาหน้างานในวันจันทร์นี้
จากนั้นก็จะเข้าสู่การปฏิบัติงานยกเครนก่อสร้างด้านบนออก โดยต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งเมื่อนำออกไปแล้วก็จะเปิดการจราจรในช่องทางด่วน (ช่องปกติ) ถนนพระราม2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯได้เป็นปกติ
ส่วนทางฝั่งขาออกกรุงเทพฯนั้น การเคลื่อนย้ายวัสดุที่หักถล่มลงมาต้องใช้เวลานานตามระยะเวลาที่รัฐมนตรีได้ให้ข้อมูลไว้ แต่ทั้งนี้ก็รีบดำเนินการให้เร็วกว่า 15 วัน เพื่อให้การจราจรทั้งสองฝั่งกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับในส่วนของการกู้ร่างผู้เสียชีวิต ณ วันนี้ สามารถนำออกมาได้หมดแล้ว โดยสรุปคือมีผู้เสียชีวิต 6 คนเป็นคนไทย 2 คน และคนต่างด้าว 4 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมี 9 คน กลับบ้านแล้ว 3 คน คงเหลือรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 6 คน ซึ่งผู้เสียชีวิตก็จะได้รับการเยียวยาตามสิทธิ และคำสั่งของ รมว.คมนาคม ส่วนผู้บาดเจ็บทางจังหวัดและเหล่ากาชาดจังหวัดได้เข้าไปเยี่ยมเยียน และจะให้การช่วยเหลือตามลำดับต่อไป
นายนริศ ยังบอกว่า เรื่องที่ต้องรีบดำเนินการเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการจราจรบน ถนนพระราม2 ที่ต้องปรับแผน และปรับเส้นทางเพิ่ม เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถเดินทางได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และหากประชาชนที่สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนในระยะนี้
Advertisement