จากกรณีนางสาวอารีย์ยา เจริญรัมย์ อายุ 23 ปี ชาวบ้านต.สามแวง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ร้องผ่านสื่อว่าลูกสาวที่เพิ่งคลอดได้เพียง 10 วันแต่มีอาการรุนแรงถึงขั้นไหปลาร้าหักและติดเชื้อในกระแสเลือดทั้งที่ลูกอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์มาตั้งแต่แรกเกิด
โดยนางสาวอารีย์ยาเล่าเหตุการณ์ว่าตัวเองคลอดลูกสาวเมื่อวันที่ 23 พ.ย.แต่ลูกตัวเหลืองหมอให้อบตัวผ่านไป 9 วันคือวันที่ 2 ธ.ค.หมอแจ้งว่าลูกสาว”ไหปลาร้าขวาหัก”และต่อมายังมาแจ้งอีกว่าลูกสาวที่คลอดมาได้เพียง 10 วันติดเชื้อในกระแสเลือดและไตไม่ทำงานในเวลาต่อมาอาการวิกฤติเรื่อยมา ต่อเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.หมอแจ้งว่าน้องได้เสียชีวิตลงแล้วสร้างความเศร้าสลดให้กับครอบครัวน้องเป็นอย่างยิ่งโดยญาติได้ตกลงกันว่าจะส่งร่างไปพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของครอบครัวเด็กพบกำลังมีการปรึกษาหารือว่าจะวางแผนอย่างไรหลังจากนี้ โดยสรุปจะยังไม่ส่งเด็กไปพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตโดยจะรอให้ทางโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ชี้แจงมาก่อน
นางตุ่ม อายุ 84 ปี ยายทวดของเด็กบอกว่าตั้งแต่รู้ว่าจะได้เหลนดีใจอยากเห็นหน้าแต่พอมาทราบข่าวรู้สึกเสียใจที่ยังไม่ได้เห็นหน้าหลานตัวเป็นๆ กลับบ้าน แต่กลายเป็นรับร่างที่ไร้วิญญาณเข้าบ้านแทน
ด้านนางเพ็ชร เกาะแก้ว อายุ 49 ปี แม่สามีนางสาวอารีย์ยาแม่เด็กก่อนหน้านี้ดีใจที่จะได้หลานพากันไปหาซื้อสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กมาจนครบ แต่กลับได้ข่าวร้ายว่าหลานออกจากโรงพยาบาลไม่ได้เพราะไหปลาร้าหัก และติดเชื้อรวมถึงไตไม่ทำงาน
ตอนแรกได้ตั้งชื่อหลานไว้แล้วชื่อ “พะแพง” แต่มาเปลี่ยนชื่อใหม่ตอนที่หลานป่วยหนักว่า “ปาฎิหาริย์” สุดท้ายไม่เกิดปาฎิหาริย์ตามที่บนเอาไว้ตอนนี้ยังติดใจเช่นเดิมว่าทำไมไหปลาร้าหักทำไมติดเชื้อในกระแสเลือดและทำไมไตไม่ทำงานยอมรับว่าเห็นใจหมอแต่ตนในฐานะผู้สูญเสียอยากจะให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงและปรับปรุงการรักษาต่อไป
Advertisement