วันที่ 16 ธ.ค. 2567 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 107 อำเภอ 702 ตำบล 5,050 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 737,091 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ราย
โดยปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 47 อำเภอ 274 ตำบล 1,998 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 128,035 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย
โดยจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัย ได้แก่
จังหวัดชุมพร เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว อ.เมืองฯ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน อ.ละแม อ.พะโต๊ะ และอ.ท่าแซะ รวม 62 ตำบล 530 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,200 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองหลังสวนระดับน้ำลดลง
จังหวัดระนอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และอ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,070 ครัวเรือน ปัจจุบันคลองญวนระดับน้ำลดลง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.เมืองฯ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.บ้านนาสาร อ.เกาะพงัน และอ.เกาะสมุย รวม 42 ตำบล 240 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,804 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 รายปัจจุบันแม่น้ำตาปีมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อ.ขนอม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.พิปูน อ.พรหมคีรี อ.ฉวาง อ.เมืองฯ อ.ลานสกา อ.ช้างกลาง อ.พระพรหม อ.ปากพนัง อ.นาบอน อ.ร่อนพิบูลย์ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ทุ่งสง อ.เชียรใหญ่ อ.จุฬาภรณ์ อ.หัวไทร อ.บางขัน และอ.ชะอวด รวม 130 ตำบล 1,056หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 107,937 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันคลองท่าดีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
จังหวัดพัทลุง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนขนุน อ.ศรีบรรพต อ.เมืองฯ อ.ศรีนรินทร์ อ.เขาชัยสน และอ.กงหรา รวม 28 ตำบล 130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,024 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันคลองนาท่อมระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง รวมถึงทีม ปภ.ส่วนหน้า ยังคงคิดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ปภ.ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งประสานจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
Advertisement