เกมยกแก๊ง! ก๊วนทวงหนี้โหดปาไข่-เลือด ทวงจ่ายดอกร้อยละ 2 ทุกวัน

เจอตัวแล้ว! แก๊งทวงหนี้โหด ปาไข่-สาดเลือด 2 แม่ลูก ก่อนขู่จ่ายดอกร้อยละ 2 ต่อวัน สารภาพแมนๆ ทำจริง ขอจบทุกอย่าง จะไปสอบนายสิบ

จากกรณีสองแม่ลูก ประกอบด้วย น.ส.ศิริพร อ่อนคำ อายุ56ปี แม่ และน.ส.ภัทรธิภานพรัตนธร อายุ 30 ปี ลูกสาวชาวอุดรธานี เจ้าของร้านเสริมสวยและร้านนวดแผนไทยเขตเทศบาลนครอุดรธานีร้องสื่อโดนแก๊งเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดทวงหนี้ด้วยการปาไข่เน่าและสาดเลือดใส่หน้าร้าน 2 ครั้ง  โดยปมเหตุที่ทวงหนี้โหดมาจากที่น.ส.ภัทรธิภา ลูกสาวไปกู้ยืมเงินนอกระบบ 3,000 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 คิดดอกร้อยละ 2 ต่อวันโดยจ่ายดอกเบี้นวันละ110บาทรวมเป็นเงิน 9,000 บาท เห็นว่าจ่ายดอกมากแล้ว จึงเจรจาขอผ่อนเงินต้นแต่เจ้าหนี้ไม่ยอมอัดคลิปด่าหยาบคาย ติดรูปทวงหนี้ตามเสาไฟฟ้า ปาไข่ เน่าสาดเลือดหน้าร้านจนต้องแจ้งตำรวจและร้องสื่อเพราะอยู่อย่างหวาดผวา

คอนเทนต์แนะนำ

“ประเสริฐ”  เผยผับ ถ่ายบัตร ปชช. ผิดกม. PDPA

ภูมิธรรม เผยปล่อยตัว 4 คนไทย ต้องรอจบกระบวนการ

ทำเพื่อ? หญิงไรเดอร์หมวกกันน็อกหูแมวเทขยะหน้าร้านอาหาร

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (4 มกราคม) พ.ต.ท.พิเชฐ์ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี และเจ้าหน้าที่นำกำลังไปที่เกิดเหตุร้านเสริมสวยและร้านนวดแผนไทยมในชุมชนหนองเตาเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบ น.ส.ศิริพร อ่อนคำ อายุ 56 ปีและนางสาวภัทรธิภา นพรัตนธร อายุ 30 ปี ลูกสาวเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังก่อนจะชี้ร่องรอยเลือดกระเด็นไปบนฝ้าเพดานร้านที่ไม่สามารถล้างออกได้โดยสองแม่ลูกได้ต้มน้ำร้อนมาขัดล้างคราบเลือดที่หน้าร้าน

ก่อนจะตำรวจเชิญไปสอบสวนปากคำที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานีโดยมีพ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานีได้มาสอบสวนปากคำน.ส.ศิริพรและน.ส.ภัทรธิภาเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินและการโดนแก๊งอัดคลิปด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายการเจรจาที่ไม่สำเร็จนำรูปน.ส.ภัทรธิภาไปติดตามเสาไฟฟ้าเพื่อทวงเงินจนถึงการถูกปาด้วยไข่เน่าและสาดเลือดใส่หน้าร้าน ซึ่งผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นนายปอนด์แก็งค์ทวงเงินกู้นอกระบบเพราะทั้งสองแม่ลูกไม่เคยมีศัตรู ถึงแม้ว่าจะกู้เงินนอกระบบประมาณ 5 รายแต่ก็ผ่อนส่งทุกรายจนปิดหนี้ไป 4 รายแล้วเหลือนายปอนด์เป็นรายสุดท้ายที่ไม่ยอมเจรจา

“รายอื่นที่ตนกู้มา 1 หมื่นบาทเขาขอบคุณที่เราใช้หนี้จนหมดและยังให้เงินตน 400บาทไปกินหมูกระทะกับแม่เหลือนายปอนด์รายเดียวที่ไม่ยอมเจรจาและส่งคลิปมาด่าและข่มขู่หนักเข้าถึงกับคุกคามด้วยการสาดเลือด ครอบครัวต้องอยู่อย่างหวาดผวาจึงอยากให้ตำรวจช่วยเจรจากับแก๊งเงินกู้ให้ด้วย”

น.ส.ภัทรธิภา เล่าอีกว่าหลังจากโดนข่มขู่และสาดเลือดคุกคาม 2 ครั้งและได้มาแจ้งตำรวจทั้งสองครั้งพร้อมกับร้องสื่อก็ยังไม่มีใครโทรมาข่มขู่อีกแต่ก็ยังหวาดกลัวพอตื่นเช้ามาก็มีตำรวจสายสืบมาตรวจที่เกิดเหตุและสอบถามเรื่องราวรู้สึกอุ่นใจขึ้นและยังเชิญมาสอบสวนปากคำที่โรงพักโดยตำรวจรับปากว่าจะโทรเรียกคนที่ข่มขู่มาเจรจาซึ่งก็รู้สึกพอใจเพราะจะได้จบปัญหาเรื่องนี้จะได้เดินหน้าทำมาหากิน

นอกจากสองแม่ลูกที่ร้องสื่อแล้ว ยังมีน.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ที่เดินทางมาพบตำรวจสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานีว่าโดนแก๊งเงินกู้สาดเลือดใส่บ้านกระเด็นถูกประตูหน้าบ้านพื้นบ้านโรงรถและโดนรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีขาว เหตุเกิดเช้าวันที่ 24 ธ.ค. 67 ซึ่ง น.ส.นิด คิดว่าน่าจะเป็นแก๊งเงินกู้รายเดียวกันที่ก่อเหตุบ้านสองแม่ลูก เพราะเพิ่งรู้ว่า น้องสาวไปกู้เงินนอกระบบมา แต่ตนไม่รู้เรื่องใดๆ จึงขอพึ่งพาตำรวจช่วยตามตัวคนทำมาดำเนินคดี

ล่าสุด ตำรวจเรียกแก๊งเงินกู้ให้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานี เมื่อช่วงเวลา12.30 น. นายนนทกร หรือ ปอนด์อายุ 21 ปี ชาวต.บ้านเลื่อมอ.เมือง จ.อุดรธานีคนอัดคลิปทวงหนี้ ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยสาดเลือดได้เดินทางมาพบตำรวจที่โรงพัก

โดยนายปอนด์ ยอมรับ เคยเป็นพนักงานเก็บเงินกู้นอกระบบ แต่ตอนนี้เลิกทำแล้วเพราะจะไปสอบนายสิบตำรวจ /ส่วนประเด็นติดรูปทวงหนี้ ปาไข่เน่าและสาดเลือดตนไม่ได้ทำอาจจะเป็นรุ่นน้องทำ

ขณะที่จำนวนเงินที่ผู้เสียหายกู้เงินนอกระบบ ที่บอกว่า3,000 บาทนั้น ไม่จริง ตนยืนยันว่า ผู้เสียหายกู้เงิน 9,000 บาท โดยกู้ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกกู้เงินไป 5,000 บาทครั้งที่ 2 เป็นจำนวน 4,000 บาท ตนมีหลักฐานมายืนยันและยังรู้ว่าผู้เสียหายไปกู้นอกระบบอีกหลายราย ส่วนผู้เสียหายเอารูปตนที่ไปฉลองปีใหม่มาออกสื่อทำให้ตนเสียหายแต่ตนจะขอยอมรับผิดทั้งหมดและจ่ายค่าเสียหายตามที่ผู้เสียหายขอมาเพื่อให้จบปัญหาที่เกิดขึ้น สุดท้ายก็ยอมรับว่าเป็นเอาเลือดหมูไปปาใส่ลูกหนี้ทั้ง 2 หลัง

ด้านพ.ต.ท.พิเชฐ์ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ไม่ยอมให้นายปอนด์รับผิดจบคนเดียว จึงให้นายปอนด์โทรศัพท์เรียกนายต้อมอายุ 36 ปีและนายลอดช่องอายุ 18 ปีแก๊งเงินกู้ที่ไปด้วยกันมา สอบสวนที่โรงพัก โดยนายต้อมให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของเงินกู้นอกระบบและเป็นคนนำรูปภาพผู้เสียหายไปติดตามเสาไฟฟ้าเพื่อทวงเงิน ส่วนนายลอดช่องก็จะไปกับนายปอนด์และนายต้อม ซึ่งท้ายที่สุดนายปอนด์ได้ขอรับสารภาพข้อกล่าวหาทั้งหมดทั้งอัดคลิปทวงหนี้ด่าหยาบคาย ปาไข่เน่า สาดเลือดและขอยุติการเป็นลูกหนี้กับเจ้าหนี้กับผู้เสียหายเพื่อจบหมดทุกอย่าง ส่วนค่าเสียหายตนพร้อมจ่ายให้ตามที่ขอมา

ด้านพ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เบื้องต้นผู้เสียหายกู้เงินต้นมา3,000 บาท แต่ดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายกำหนด ผูกพันยาวมาเรื่อยๆ ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนไปไล่กล้องวงจรปิดรวบรวมพยานหลักฐานขอสลิปการโอนเงินเพื่อจับกุมดำเนินคดี ส่วนเงินที่ผู้เสียหายส่งไปน่าจะท่วมต้นท่วมดอกแล้วให้ยุติการชำระหนี้ ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับดำเนินคดีเบื้องต้นข้อหา“ร่วมปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” ส่วนเรื่องปิดประกาศทวงหนี้และปาไข่เน่าและสาดเลือดใส่ร้านจะให้พนักงานสอบสวนทั้งสองฝ่ายทำการไกล่เกลี่ยตกลงกันต่อไป