จากเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันนี้ (18 ก.พ. 68) เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งเกิดเหตุมีบ้านไม้ถล่ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดค้างภายในบ้าน ที่หมู่ 6 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงหลังคาสีฟ้าสภาพพังถล่มลงมาเสียหายทั้งหลังและยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่ในบ้านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 รายเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาล
สอบถาม สมรวย เล่าว่าตอนนั้นตนเองได้นอนอยู่บนบ้านกับหลานอีก 3 คน ขณะนั้นเมื่อช่วงเช้ามีฝนตกลงมาอย่างหนัก พอตนอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินเสียงไม้ลั่นสักพักบ้านก็เกิดถล่มลงมาทันที จากนั้นตนเองก็ตั้งสติรีบไปอุ้มหลานที่นอนอยู่ในห้องเด็กอีก 3 คน รีบนำตัวออกมาข้างนอกได้อย่างปลอดภัย
ทางด้าน นายละเอียด เจ้าของบ้านบอกว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้ทำงานอยู่ร้านอาหารซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้าน ขณะนั้นได้ยินเสียงบ้านถล่มโค่นลงมาจึงรีบวิ่งมาช่วยคนในบ้าน ส่วนสาเหตุนั้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนตนเองได้ยินเสียงไม้บ้านลั่นและโคลงเคลง ตอนนั้นรู้สึกกลัวและใจคอไม่ดีจึงไหว้กล่าวบนบานเจ้าที่เจ้าทางให้อย่าให้บ้านเกิดเป็นอะไรเลย พอช่วงเวลาประมาณ 04:00 น. ฝนตกหนักลงมาอย่างแรงทุกคนในบ้านก็นอนอยู่ตามปกติ พอช่วงเช้าตนเองตื่นมาทำงานภรรยาและหลานนอนอยู่ในบ้าน สักพักได้ยินเสียงดังโครมสนั่นจึงรีบวิ่งมาดูก็พบเห็นบ้านถล่มลงมาแล้ว ส่วนบ้านหลังนี้ตนเองปลูกสร้างมาแล้วประมาณ 12 ปีตอนนี้ก็ไม่รู้จะนำเงินมาสร้างที่ไหนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องสร้างบ้านให้ด้วยเนื่องจากไม่มีเงินมากพอ
ภาพจากกล้องวงจรปิดเวลา 09.07 น. ของร้านโจ๊กตลาดพลูที่อยู่ข้างบ้านที่ถล่มบันทึกภาพและเสียงขณะบ้านพังถล่มลงมาทั้งหลังโดยจะมีเสียงไม้ลั่นดังก่อนที่ตัวบ้านจะพังลงมาทั้งหลังฝุ่นตลบจากนั้นเจ้าของบ้านที่ทำงานอยู่ร้านวิ่งมาดูช่วยเหลือคนในบ้าน
โดยเมื่อเวลา 10.30 น. นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายชรินวงศ์ พันธ์เที่ยง ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 3 จากพรรคประชาชน นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยปลัดอำเภอเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ทันทีออกตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุพร้อมประสานขอความช่วยเหลือ
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการและผู้ด้อยโอกาสประมาณ 80,000 บาท และทางอบจ. อีก 40,000 บาท รวมประมาณ 120,000 บาท ซึ่งให้เจ้าหน้าที่เร่งพื้นที่ตรวจสอบและให้รีบตั้งโครงการช่วยเหลือได้ทันที ซึ่งถ้าต้องการสนับสนุนเครื่องจักรในการรื้อขนย้ายทาง อบจ. ก็พร้อมสนับสนุนทันทีซึ่งประสานการไฟฟ้าตัดกระแสไฟจัดเจ้าหน้าที่ลงช่วยเหลือทันที โดยทีมจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งความเป็นอยู่เบื้องต้นประสานนำเต้นจากทางเทศบาลมาทำการตั้งเต้นท์เพื่อวางเก็บทรัพย์สินชั่วคราว โดยจะเป็นที่พักชั่วคราวให้เจ้าของบ้านได้เฝ้าทรัพย์สิน ส่วนทาง นายชรินวงศ์ ได้เตรียมหาเช่าห้องพักบริเวณใกล้เคียงให้อยู่เพื่อความสะดวกของคนในครอบครัว เพราะมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้อยู่ชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเพิ่มเติม หลังจากลงพื้นที่ตรวจความเสียหายดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป
Advertisement