วันที่ 20 ก.พ.68 กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก PaphawarinSimlakorn หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลดอนมนต์ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์โพสต์ข้อความเตือนผู้ปกครอง หลังมีเคสเด็กนักเรียนป่วยเข้าโรงพยาบาลจากบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อม
ระบุข้อความ "มาอีกแล้วพิษบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมวันนี้ส่งต่อเด็กนักเรียนประถม ป.5 (1คน) ป.6(1คน) ม.2(1คน) สูบบุหรี่ไฟฟ้า ดื่มน้ำกระท่อม รวมแล้วอนามัยเรานำส่งรวม 8 เคสมาด้วยอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่ม
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า เด็กนักเรียนทั้งหมดที่เข้าไปรักษาเรียนอยู่โรงเรียนในเขตพื้นที่ ต.ดอนมนต์ อ.สตึก และยังพบว่าก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม มีเด็กหญิงอายุ 15 ปี ในเขตพื้นที่ ต.ดอนมนต์ เสียชีวิตเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว 1 คน
สอบถามนางเอ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ย่าของเด็กหญิงวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลดอนมนต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เด็กหญิงที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เล่าว่า แม่เด็กทิ้งไปตั้งแต่น้องยังเล็ก จากนั้นทวดของเด็กเลี้ยงต่อ ต่อมายายทวดป่วยติดเตียง ตนเองจึงมารับหน้าที่เลี้ยงต่อจนไม่ได้ไปทำงาน แต่ต้องรับภาระเลี้ยงทั้งยายทวดและหลานของตนเอง
นางเอ เล่าอีกว่า ตอนหลานยังเล็กเป็นเด็กขยัน ช่วยทำงานบ้านตามที่ผู้ใหญ่เรียกใช้ แต่มาเริ่มผิดปกติตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 ชอบออกจากบ้านไปหาเพื่อนบอกว่าจะไปทำการบ้าน จนระยะหลังหลานเป็นเด็กฉุนเฉียวไม่ทำงานและออกจากบ้านไปแทบทุกวัน
จนกระทั่งล่าสุดทางโรงเรียนโทรมาแจ้งว่าส่งหลานไปโรงพยาบาลสตึกด้วยอาการหายใจไม่อิ่ม อาเจียน ไม่มีแรง และเมื่อไปพบหมอที่โรงพยาบาลแพทย์ ระบุว่า เด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งอาการตอนนี้ปอดหายไปเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
จึงอยากจะให้รัฐบาลมาแก้ไขปัญหา เช่น เร่งปราบปรามหรือแก้ไขที่ต้นเหตุ คือไม่มีการผลิตหรือขายบุหรี่ไฟฟ้า มาจำหน่ายได้ เพราะเด็กชอบอยากลองอยู่แล้ว.
Advertisement