ชุดพญาเสือบุกยึดเสือโคร่ง 5 ตัว สวนสัตว์ดังมุกดาหาร ดีเอ็นเอไม่ตรงตามที่แจ้ง
กรมอุทยานฯ ยึดเสือโคร่ง 5 ตัวของสวนสัตว์ดังใน จ. มุกดาหาร หลังผลตรวจดีเอ็นเอลูกเสือไม่ตรงกับพ่อแม่ตามที่อ้างใบครอบครองสัตว์ป่า อายัดเสือเป็นของกลางจนกว่าคดีสิ้นสุด ส่งสถานีเพาะเลี้ยงฯ จ.ศรีสะเกษ ดูแล
คอนเทนต์แนะนำ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 63 นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานการแถลงข่าวผลการเข้าตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว (เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 2 ตัว) ของสวนสัตว์มุกดาสวนเสือและฟาร์ม ในพื้นที่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร
สืบเนื่องจากนายเอกชัย เพชรรัตน์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฎิบัติการพิเศษพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชชุดพญาเสือ พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) นายสถิตย์ พิสัยสวัสดิ์ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร (ไซเตส) เข้าตรวจยึดเสือโคร่งจำนวน 3 ตัว และอายัดซากเสือโคร่งจำนวน 2 ตัว รวม 5 ตัว และอายัดซากหัว 1 หัว ภายในบริเวณมุกดาสวนเสือและฟาร์ม ตรวจพิสูจน์
โดยผลการพิสูจน์รหัสพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) จากศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปรากฏว่าลูกเสือโคร่งชื่อ "ข้าวยำ, ข้าวกล่ำ และข้าวจ้าว" ซึ่งเกิดเมื่อ 11 ส.ค. 58 ส่วนข้าวเหนียวได้ตายไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.62 โดยสวนสัตว์ยังเก็บซากข้าวเหนียวไว้อยู่ ไม่มีความสัมพันธ์เป็นลูกของเสือโคร่ง ชื่อ "ให้ลาภ" และ "ให้ทอง" แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังได้ทำข้อมูลรหัสพันธุกรรมของลูกเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ไปเปรียบเทียบข้อมูลรหัสพันธุกรรมของเสือโคร่งอื่น จำนวน 20 ตัว ภายในสวนสัตว์พบว่าไม่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อ-แม่-ลูก เช่นกัน จึงถือได้ว่าลูกเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ข้างต้น ไม่มีหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 17 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการที่เจ้าของสวนสัตว์ได้มีหนังสือลงวันที่ 7 ก.ย. 58 แจ้งเกิดลูกเสือโคร่งและระบุตัวพ่อ-แม่ของเสือโคร่งดังกล่าวอย่างชัดเจน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่จดและบันทึกข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นหลักฐาน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 137 และฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามมาตรา 267
ส่วนลูกเสืออีก 2 ตัว คือ ข้าวเม่า และข้าวเปลือก เป็นลูกของพ่อโตโต้ และแม่มะเฟือง โดยขณะนี้ยังรอผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออยู่ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือนน่าจะทราบผล ซึ่งหลังนี้เจ้าหน้าที่จะนำเสือโคร่งของกลางไปดูแลรักษาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จ.ศรีสะเกษ ต่อไป
นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ปัจจุบันมีสวนสัตว์อยู่ทั้งหมด 49 แห่งทั่วประเทศ อยู่ในกรุงเทพฯ 4 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 45 แห่ง โดยมีสวนสัตว์ 32 แห่งที่มีเสือโคร่งอยู่ รวมทั้งสิ้น 1,511 ตัว โดยเราจะเร่งตรวจสอบดีเอ็นเอเสือโคร่งในสวนสัตว์ทั้งหมด ซึ่งกรมอุทยานฯ มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ หากไม่เชื่อมโยงกันก็แปลว่านำเสือจากธรรมชาติมาสวมรอย
Advertisement
