ในยุคที่โลกโซเชียลมีเดีย มีอิทธิพลต่อชีวิตผู้คน ธุรกิจสวนสัตว์ไทย ก็ต้องปรับตัว เพื่อดึงดูดความสนใจ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ปรากฏการณ์ "สัตว์เซเลบริตี้" จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่ช่วยสร้างสีสัน และกระตุ้นให้ผู้คน หันมาสนใจสวนสัตว์ มากขึ้น
บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปดูกรณีศึกษาของ "หมูเด้ง" และ "น้องเอวา" พร้อมวิเคราะห์กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ที่สวนสัตว์ไทย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับธุรกิจ และสร้างความยั่งยืน ในยุคดิจิทัล
ปรากฏการณ์ "สัตว์เซเลบริตี้" กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงธุรกิจสวนสัตว์ไทย โดยมี หมูเด้ง ฮิปโปโปเตมัสแคระ วัย 4 เดือน จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่ได้ปลุกกระแสให้คนหันมาเข้าสวนสัตว์กันมากมาย และล่าสุด เอวา เสือโคร่งเบงกอลสีทอง วัย 3 ปี จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นสองตัวอย่างที่โดดเด่น สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการดึงดูดความสนใจของสาธารณชน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญ
เทียบคุณสมบัติ | หมูเด้ง (สวนสัตว์เปิดเขาเขียว) | เอวา (เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี) |
เกิด | 10 ก.ค. 67 | 16 ก.พ. 64 |
เพศ | เมีย | เมีย |
สายพันธุ์ | ฮิปโปโปเตมัสแคระ | เสือโคร่งสีทอง |
อายุ | 4 เดือน | 3 ปี |
ความสูง | 46 ซม. | N/A |
น้ำหนัก | 32.7 กก. | N/A |
จุดเด่น | บุคลิกเป็นมิตร, ท่าทางตกใจ | หน้าตาบ้องแบ๊ว, ขี้เล่น |
กลยุทธ์การตลาด | เน้นการสร้างคอนเทนต์, โชว์ความน่ารักสดใส , เข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง | เน้นการสร้างภาพลักษณ์ , โชว์ความหายาก, เสริมภาพลักษณ์ความหรูหรา |
สไตล์การสื่อสาร | สดใส, ร่าเริง | อ่อนโยน, น่าทะนุถนอม |
ผลลัพธ์ | สร้างกระแสไวรัล , ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ,สร้างรายได้และมูลค่าแบรนด์ | สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก, ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว , เพิ่มยอดขายสินค้าที่ระลึก |
หมูเด้ง: ฮิปโปโปเตมัสแคระ เพศผู้ วัยเพียง 4 เดือน เกิดวันที่ 10 ก.ค. 67 กลับกลายเป็นดาวเด่นของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ด้วยบุคลิกที่ดูอารมณ์ดี เป็นมิตร และ "ท่าทางตกใจ" อันเป็นเอกลักษณ์ ที่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว แม้จะอายุยังน้อย แต่หมูเด้งก็มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และกลายเป็นสัญลักษณ์ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไปแล้ว
โดย "หมูเด้ง" ฮิฮิปโปโปเตมัสตัวน้อยดาวเด่นจากสวนสัตว์เขาเขียว ได้สร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่งบนโลกโซเชียลมีเดีย โดยไม่ได้เพียงมอบความบันเทิงแก่ผู้ชมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทางการตลาดอันมหาศาล ข้อมูลเชิงสถิติบ่งชี้ว่า มีการกล่าวถึงหมูเด้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ มากกว่า 8,678 ครั้ง โดย Facebook ครองอันดับหนึ่งในฐานะช่องทางที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ด้วยจำนวนข้อความสูงถึง 5,263 ครั้ง ในขณะเดียวกัน TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่สร้าง Engagement ได้อย่างโดดเด่น โดยมีจำนวน Interactions สูงถึง 34,674,750 ครั้ง จากยอดรวม Engagement ทั้งหมด 38,440,092 ครั้ง ตัวเลขดังกล่าวนี้ชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของ "ความน่ารัก" ที่สามารถเชื่อมโยงและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หมูเด้ง
โลกออนไลน์กำลังตกหลุมรัก "น้องเอวา" เสือโคร่งสาวน้อยหน้าตาน่าเอ็นดู! หลังจากเฟซบุ๊ก "เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari" ได้โพสต์ภาพของน้องเอวา เสือโคร่งสีทอง หรือ เสือโคร่งสตรอว์เบอร์รี่ วัย 3 ขวบ ที่มีใบหน้าบ๊องแบ๊ว ละมุนละไม ต่างจากภาพลักษณ์ดุร้ายของเสือโคร่งทั่วไป จนทำให้ชาวเน็ตแห่กันกดไลก์ กดแชร์ ภาพความน่ารักของน้องเอวากันอย่างล้นหลาม
ทำความรู้จัก "น้องเอวา" เสือโคร่งสุดน่ารักแห่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
น้องเอวา เป็นเสือโคร่งสีทอง หรือ Golden Tabby Tiger สัตว์หายากที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับมาดูแล ซึ่งที่นี่มีเสือโคร่งสีทองทั้งหมด 3 ตัว น้องเอวาเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นลูกสาวของคุณพ่อเดรสเปรสโซ่ และคุณแม่คริสต้า จากสวนสัตว์ซูการ์เดนริเวอร์ 8 ปทุมธานี น้องเอวาและพี่น้องอีก 2 ตัว เป็นเสือโคร่งเพศเมียทั้งหมด
เสือโคร่งสีทอง หรือ Taj เป็นเสือโคร่งเบงกอลที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เกิดจากยีนด้อยที่ทำให้ขนมีสีขาวผสมกับสีน้ำตาล ลักษณะคล้ายกับเสือขาว น้องเอวาจึงมีขนสีขาวนวล ลายสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีฟ้า จมูกสีชมพู ดูน่ารักน่าทะนุถนอม ปัจจุบันทั่วโลกมีเสือโคร่งสีทองอยู่เพียง 50-100 ตัวเท่านั้น นับเป็นสัตว์หายากที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
เพราะอะไร "น้องเอวา" ถึงโด่งดังเป็นพลุแตก?
จุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ "น้องเอวา ฟีเวอร์" เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เมื่อทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้เผยแพร่ภาพน้องเอวาในอิริยาบถสุดน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งไขว้ขา ดวงตาใสซื่อ บวกกับมุมกล้องที่ทำให้ดูคล้ายกับแมวเหมียว จนหลายคนอดแซวไม่ได้ว่า "นี่เสือหรือแมวกันแน่?" ความน่ารักเกินต้านทานของน้องเอวา ทำให้โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปมากกว่าหมื่นครั้ง พร้อมกับมีผู้คนเข้ามาแชร์ภาพถ่ายน้องเอวาและพี่น้องเสือโคร่งสีทองตัวอื่นๆ ที่แต่ละตัวก็น่ารักน่ากอดไม่แพ้กัน
พี่เลี้ยงของน้องเอวาเล่าว่า น้องเอวาเป็นเสือที่ขี้เล่น ซุกซน และมักจะเดินเข้ามาทักทายนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกับเด็กๆ ใครที่อยากสัมผัสความน่ารักของน้องเอวาแบบใกล้ชิด สามารถไปเยี่ยมชมน้องได้ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โซนอาณาจักรเสือ (Tiger World) ซึ่งน้องเอวาอยู่กับน้องลูน่า เสือโคร่งสาวสวยอีกตัวหนึ่ง ในช่วงเวลา 11.00 - 14.00 น. หลังจากนั้นน้องๆ จะไปเตรียมตัวแสดงโชว์ (Tiger Show) ให้ผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจกันต่อไป
ปรากฏการณ์ "สัตว์เซเลบริตี้" กำลังกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจสวนสัตว์ไทยในปัจจุบัน โดย "หมูเด้ง" ฮิปโปโปเตมัสแคระ วัย 4 เดือน จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ "น้องเอวา" เสือโคร่งเบงกอลสีทอง วัย 3 ปี จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี คือสองตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของสัตว์เซเลบริตี้ในการดึงดูดความสนใจของสาธารณชน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ
วิเคราะห์เชิงธุรกิจ กลยุทธ์สู่ความสำเร็จจากสัตว์เซเลบริตี้
จากกรณีศึกษาของ "หมูเด้ง" และ "น้องเอวา" สามารถวิเคราะห์เชิงธุรกิจ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนา และยกระดับธุรกิจสวนสัตว์ โดยแบ่งออกเป็น 4 มิติหลัก ดังนี้
1. การตลาดและการสร้างแบรนด์ (Marketing & Branding)
2. การเพิ่มรายได้ (Revenue Generation)
3. การอนุรักษ์ (Conservation)
4. การบริหารจัดการ (Management)
จากกรณีศึกษาของ "หมูเด้ง" และ "น้องเอวา" ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ "สัตว์เซเลบริตี้" ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจสวนสัตว์ไทย ครอบคลุมมิติต่างๆ ตั้งแต่การตลาดและการสร้างแบรนด์ การเพิ่มรายได้ การอนุรักษ์ ไปจนถึงการบริหารจัดการ ปรากฏการณ์นี้ได้จุดประกายให้สวนสัตว์ไทยก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ที่ต้องปรับตัวและนำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ เพื่อดึงดูดความสนใจของสาธารณชน สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในระยะยาวต้องอาศัยการวางแผนและการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ สวนสัตว์ต้องให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของสัตว์ทุกตัว โดยเฉพาะสัตว์เซเลบริตี้ที่อาจได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การดูแลสุขภาพ และการป้องกันความเครียด เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นอกจากนี้ สวนสัตว์ควรใช้ประโยชน์จากความนิยมของสัตว์เซเลบริตี้ ในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า
ด้านความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับคนรุ่นต่อไป การนำเสนอและใช้ประโยชน์จากสัตว์เซเลบริตี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความทุกข์ทรมานต่อสัตว์ สวนสัตว์ต้องพัฒนาและนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจและแตกต่าง เช่น การใช้เทคโนโลยี AR/VR การจัดแสดงนิทรรศการแบบ Interactive การจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
เชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพ ความมุ่งมั่น และความคิดสร้างสรรค์ สวนสัตว์ไทยจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสัตว์เซเลบริตี้ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า และการให้ความรู้แก่สาธารณชนอย่างยั่งยืน และ ด้วยความสำเร็จของ "หมูเด้ง" และ "น้องเอวา" สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ "สัตว์เซเลบริตี้" ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจสวนสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายตั๋ว การสร้างรายได้จากสินค้าที่ระลึก การเป็น Brand Ambassador ให้กับสวนสัตว์รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า
ขอขอบคุณรูปจาก สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี