ถอดความสำเร็จ 2 ธุรกิจรายได้พันล้านไม่ใช่แค่รอดแต่ยังรุ่งในยุคปัจจุบัน

ร้านอาหารญี่ปุ่น ? ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ? หากเราเป็น SME หน้าใหม่เชื่อว่า 2 ธุรกิจนี้คงเป็นธุรกิจที่ใครไม่เจ๋งจริง ไม่รู้จริงก็ยากที่จะอยู่รอด ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้

เพราะ 2 ธุรกิจนี้ถือได้ว่าเป็นธุรกิจปราบเซียน หรือเรียกง่ายๆว่าเป็น Red Ocean ธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่าเจ้าตลาด หรือ หน้าใหม่ที่เข้ามา

MAGURO Group และ iHAVECPU 2 ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ที่ได้ก่อร่างสร้างตัวไม่เกิน 15 ปี แต่สามารถกลับครองพื้นที่ในตลาดได้อย่างน่าเชื่อเหลือ กวาดรายได้กว่าพันล้านบาทท่ามกลางการแข่งขันบน Red Ocean และในวันที่ผู้บริโภคอย่างเรามีตัวเลือกมากมาย แต่ทำไม 2 แบรนด์นี้กลับเป็นตัวเลือกแรกๆของผู้บริโภค พวกเขามีกลยุทธ์อย่างไร ?

บทความนี้  SPOTLIGHT จึงชวนทุกมาถอดรหัสความสำเร็จจาก 2 ธุรกิจ รายได้พันล้านไม่ใช่แค่รอด แต่ยังรุ่งในยุคปัจจุบันโดยได้สรุปสาระสำคัญจากงาน SPOTLIGHT FORUM “SME Navigator 2025 ชี้ทางรอด นำทางรุ่งธุรกิจไทย” ในหัวข้อ “สร้างความสำเร็จธุรกิจในแบบผู้ประกอบการยุคใหม่ (Building Success: The New Age Entrepreneur’s Playbook)”จากคุณป้อ-จักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง MAGURO และคุณเปา-พีรดนย์ เหมยากร ผู้บริหาร และผู้ก่อตั้ง iHAVECPU

MAGURO จากกลุ่มเพื่อน 4 คน ที่หาช่องว่างทางการตลาด ‘ร้านอาหารญี่ปุ่น’ ในแบบที่ยังไม่ค่อยมีในไทย

MAGURO เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อน 4 คน วัยกลางคน ที่ได้มีการลองผิดลองถูกมาสักระยะ แล้วอยากทำธุรกิจร่วมกันเป็นของตนเองที่ต้องเติบโตในระยะยาว

คุณป้อ ได้เล่าว่า ในวันนั้นที่เราอยากทำธุรกิจกัน ก็ได้มานั่งพูดคุยว่าพวกเราอยากจะทำธุรกิจอะไร หนึ่งในตัวเลือกที่ทุกคนสนใจคือ ‘การเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น’ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีเยอะมาก การแข่งขันก็สูงเหมือน Red Ocean คำถามคือช่องว่างการตลาดตรงไหนที่พวกเราสามารถแทรกเข้าไปได้ ?

เมื่อได้ทำการหาข้อมูลก็พบว่า ตอนนั้นร้านญี่ปุ่นในไทยได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 tiers หลักๆ นั้นก็คือ ราคาแพง คุณภาพสูงที่ตั้งอยู่แถวทองหล่อ กับ ราคาถูก ซูชิคำละ 10 บาทที่ขายตามท้องตลาด

ซึ่งหากถ้าเราดูเผินๆเราก็อาจจะไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปได้เพราะทุก tiers มีเจ้าตลาด แต่หากเราดูให้ลึกขึ้น เราจะพบว่า ร้านอาหารญี่ปุ่น คุณภาพสูง แต่ราคากลางๆ  (premium mass) กลับยังไม่มีผู้เล่นในตลาดมากนั้น นั้นก็เลยทำให้เกิด MAGURO สาขาแรกขึ้นมาที่ ชิค รีพับบลิค ที่บางนา

และหากถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงเกิดคามสงสัยเหมือนผู้เขียน ว่าทำไม MAGURO ถึงเลือกเปิดสาขาแรกที่บางนา ? แถมยังเป็นห้างที่ขายเฟอร์นิเจอร์ ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มี traffic สูง

คุณป้อ ได้เล่าว่า สาเหตุที่ MAGURO ได้เลือกเปิดสาขาแรกที่บางนา เนื่องจาก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆมักจะมีการกระจุกตัวเปิดอยู่แค่ในเมือง ผู้บริโภคต้องฝ่ารถติดขับเข้าไปในเมืองเพื่อกินของดีๆ แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่มีร้านอร่อยใกล้บ้าน ซึงบางนาก็เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรร และกำลังซื้อสูง

ส่วนสาเหตุที่เลือก ชิค รีพับบลิค นั้นก็เพราะว่า ค่าเช่าที่ และตอนนั้นร้านอาหารให้ชิค รีพับบลิค ก็มีไม่เยอะ หากคนมาเดินเล่นแล้วหิวข้าวก็อาจจะทำให้พวกเขาเปิดใจเดินเข้ามาที่ร้านเราได้ไม่ยาก

iHAVECPU จากเด็ก 11 ขวบที่ชอบประกอบคอมพิวเตอร์ ด้วยเงินทุน 40,000 บาทก้อนแรกที่แม่ให้มา

iHAVECPU เกิดขึ้นจาก คุณคุณเปา-พีรดนย์ เหมยากร เด็กวัย 11 ขวบที่ชื่นชอบการประกอบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ตอนอยู่ป.5

คุณเปาได้เล่าว่าตอนเด็กๆ ตนเองเรียนไม่เก่ง แต่อยากมีกิจการเป็นของตัวเอง จนเมื่อตัวเองอายุ 25 ปีได้ดูของใน EBAY เห็นชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ก็เลยมีความคิดที่อยากคอมพิวเตอร์เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตนเองชอบ ซึ่งตอนนั้นคุณเปาก็ได้ยืมเงินคุณแม่มา 40,000 บาท หวังแค่ซื้อมาและขายไป แต่กลับว่าขายได้ดีจากการไลฟ์สด เนื่องจากตอนนั้น iHAVECPU เป็นเจ้าแรกๆในท้องตลาดที่ได้ไลฟ์ขายคอมพิวเตอร์

“ขายคอมพิวเตอร์ มันก็เหมือนกันทุกเจ้า แต่ถ้าสุดท้ายมันตั้งอยู่แต่ในตู้โชว์ มันก็วางอยู่แค่นั้น แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้มันทำอะไรได้บ้าง มันเล่นเกมส์อะไรได้บ้าง ผมเลยเลือกที่จะเทสให้ทุกคนเห็นเพื่อให้ลูกค้าประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มันเหมือนกับเป็นห้องเสื้อ ให้เขาได้ลอง ไม่ชอบก็แค่ไม่ซื้อ การไลฟ์สดเหมือนกับการสร้างโอกาสให้มากขึ้น”

กระดุมเม็ดแรกของธุรกิจอาหารยังไงก็คือ รสชาติ

ท่ามกลางร้านอาหารญี่ปุ่นที่เต็มท้องตลาด ซึ่งถ้าไปกินร้านไหนก็เอาแซลมอนมาจากที่เดียวกัน ความแตกต่างของ MAGURO คืออะไร ?

คุณป้อ ได้เล่าว่า “กระดุมเม็ดแรกของการทำธุรกิจอาหาร คือ รสชาติอาหาร แต่ปัจจุบันมิติเดียวไม่มันพอ แต่มันคือใบเบิกทาง ซึ่ง raw material เอาจริงๆมันก็เหมือนกันหมด แต่กระบวนการหลังจากนั้น เช่น การปรุงอาหาร, ขนาดในการเสิร์ฟ, การตั้งราคา, เมนู, ซอส มิติเหล่านั้นแหละคือองค์ประกอบของร้าน ซึ่งกลายเป็น DNA พอแบรนด์ติดตลาด กระดุมเม็ดแรกต่อมาถูกยังไงเม็ดต่อไปก็ต่อได้ง่าย”

และในเวลานั้นเลยได้ไปหยิบแนวคิดของคนญึ่ปุ่น ที่ชอบทำ extra มากกว่าที่เราขอ หรือปรัชญา Give More ทำให้ MAGURO ใส่สุดให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นรสชาติ บรรยากาศร้าน หรือการบริการ โดยเริ่มแรกไม่ได้มองที่ margin แต่มองที่ volume มากกว่า

จนตอนนี้ MAGURO สามารถมีร้านในเครือ กว่า 5 ร้านค้า พร้อมกับความฝันอยากเป็นเชนร้านอาหารชื่อดังที่สามารถขยายสาขาได้ในกรุงเทพ และต่างจังหวัด

MAGURO : ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม

จำนวนสาขา 18

SSAMTHING Together : ร้านอาหารเกาหลีสไตล์ปิ้งย่าง

จำนวนสาขา 6

HITORI Shabu : ร้านชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบบ A La Cart

จำนวนสาขา 12

Tonkatsu Aoki : ร้านทงคัตสึชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น

จำนวนสาขา 3

CouCou : ร้านอาหารแนวตะวันตกแบบ All-Day Dining

จำนวนสาขา 1

iHAVECPU  1 ปีไลฟ์ไป 970 ครั้ง กวาดรายได้มากสุด 20 ล้านบาทต่อหนึ่งไลฟ์

คุณเปาได้เล่าว่า ปีที่แล้วตนได้ live ไปมากกว่า 970 ครั้ง เคยไลฟ์ขายได้มากที่สุดได้ถึง 20 ล้านบาท โดยวิธีการขายคือการขายแบบไม่ขาย ขายแบบเนิบๆเนียนๆให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าโดน hardsell

โดยความแตกต่างของ iHAVECPU คือการเปรียบเทียบให้ข้อมูลเชิงลึก ,การตั้งงบให้ลูกค้า เช่น 30,000 บาท เครื่องนี้ได้อะไรบ้าง เล่นเกมส์อะไรได้บ้าง ทำอะไรได้บ้าง ทำให้กลุ่มลูกค้าของ iHAVECPU สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่คนที่ไม่เคยมีคอมพิวเตอร์มาก่อน, คนมีคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ไปจนถึงคนที่เป็นเกมเมอร์

“หลายๆคนอาจจะมองว่าคอมพิวเตอร์ ซื้อที่ไหนมันก็เหมือนกันหมด เหมือนกันอย่างกับแกะเพราะเอาจริงๆคอมฯสเปคเดียวกัน ซื้อที่ไหนมันก็แรงเท่ากัน แต่กลยุทธ์ของผมคือ คอมฯ เหมือนกันทำยังไงก็ได้ให้คนมองไม่เหมือนกัน โดยการ add value มันเข้าไป คุณมีความรู้อะไรก็ใส่มันเข้าเข้าไป เทสสเปคให้ลูกค้าเห็น ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเจ้าของรู้จริง และต้องรู้สึกภูมิใจที่ได้ซื้อจาก iHAVECPU”

โดยรายได้ของ iHAVECPU  5 ปีย้อยหลัง

ปี 2020 สามารถกวาดรายได้กว่า 470 ล้านบาท

ปี 2021 สามารถกวาดรายได้กว่า 600 ล้านบาท

ปี 2022 สามารถกวาดรายได้กว่า 1,100 ล้านบาท

ปี 2023 สามารถกวาดรายได้กว่า 1,300 ล้านบาท

ปี 2024 สามารถกวาดรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท

และมีร้านค้ามากถึง 14 สาขาทั่วประเทศไทย

โควิด- 19 ฝันร้ายของร้านอาหาร แต่ไม่ใช่กับ MAGURO

ในช่วงโควิด เป็นที่รู้กันว่าหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็คือร้านอาหาร เนื่องจากการกักตัว ผู้บริโภคไม่สามารถออกจากบ้านได้ เช่นเดียวกันกับ MAGURO ที่แม้ต้องปิดร้านชั่วคราว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการได้คิดแบรนด์น้องใหม่ ถึง 2 แบรนด์

คุณป้อ ได้เล่าว่า “ในช่วงโควิด ร้านอาหารได้รับผลกระทบเต็มๆ เราขาดทุนทันทีถ้าไม่ได้เปิดร้านเพียงแค่ 1 วัน แม้ว่าจะมีมาตรการรักษาพนักงาน ไม่ lay off แต่ก็ต้องแลกมากับการขอลดรายจ่าย พยายามออกสินค้าเกี่ยวกับความสะอาดโดยได้มีการดึงเชฟที่ว่างๆมาช่วยงาน แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำกำไรได้ แต่มันก็ช่วยประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด”

โดยคุณป้อได้กล่าวเสริมว่า ช่วงนั้นได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก โดยเฉพาะศาสตร์แห่งการควบคุมความเสี่ยง พยายามคิด พัฒนาสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา พยายามสร้างโอกาสในช่วงวิกฤต เพราะในวันที่ตลาดเปิด เราจะเป็นคนที่พร้อมลุย นั้นก็เลยเป็นที่มาของแบรนด์ 2 ในเครือ MAGURO GROUP SSAMTHING Together และ HITORI Shabu

นอกจากนี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์ของ MAGURO คือการ ฟังเสียงลูกค้า และการจับจังหวะการตลาดให้ถูก

“การทําร้านอาหารในยุคปัจจุบัน ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังลูกค้า ฟังตลาด ฟังเทรนด์ ลูกค้ายังรู้สึกเหมือนเดิมไหม? ที่สำคัญคือ’การรู้จังหวะ’ จังหวะไหนควรชะลอ จังหวะไหนควรถอย ไม่ใช่ว่าจะขยายสาขาอย่างเดียวโดยไม่ดูสภาพแวดล้อม”

เช่นเดียวกันกับการจับจังหวะเข้าตลาดหลักทรัพย์

คุณป้อได้เล่าว่า “ธุรกิจร้านอาหารจะเติบโตได้ ก็ต้องเพิ่มจำนวนสาขา แต่ถ้าเราเก็บกำไรสะสมไปเรื่อยๆ เปิดปีละหนึ่งที่มันจะโตช้ามาก แล้วเป็นที่รู้กันว่า life cycle ของร้านอาหารค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5-6 ปี แล้วมันจะเข้าสู่ในช่วง decline stage เช่น เปิดมานานแล้ว ความตื่นเต้นน้อยลง ผู้บริโภคมีตัวเลือกอื่นมากขึ้น นั้นก็เลยเป็นสาเหตุที่ MAGURO Group เข้าตลาดหลักทรัพย์”

iHAVECPU ตั้งเป้าเปิดหน้าร้าน 50 สาขา ครองจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ

ในวันที่เกือบทุกธุรกิจเริ่มต้นการขายแบบ offline to online แต่ iHAVECPU กลับเลือกการตลาดแบบ reverse นั้นก็คือ online to offline

แม้ว่า iHAVECPU จะเกิดจากการขายออนไลน์แต่คุณเปามองว่า iHAVECPU จะไม่หยุดอยู่แค่นั้น โดยตั้งเป้าเปิดหน้าร้านถึง 50 สาขา ให้ลูกค้าทุกจังหวัดได้มีโอกาสเดินเข้าไปลอง เข้าไปคุยแบบ face to face ที่ร้าน พร้อมกับจุดแข็ง ตัวจริงในด้านคอมพิวเตอร์

"มีคนชวนผมไปเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ทางของผม ผมอยากเป็นเจ้าของสิ่งที่ผมสร้างมาคนเดียว ไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวเอง เราเริ่มจากเล็กๆและค่อยขยายไปตามกำลังที่มี"

MAGURO Group และ iHAVECPU เป็น 2ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นจากการเป็น SME ลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ทำให้ 2 ธุรกิจนี้เติบโตและกวาดรายได้ระดับพันล้านได้ คือ การจับจังหวะหาโอกาสใหม่ๆเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ และสิ่งที่สำคัญคือ การไม่ยอมหยุดพัฒนาตนเองหรือไม่ยอมเป็นน้ำเต็มแก้ว เพราะต้องอย่าลืมว่าทุกวันที่ธุรกิจเราดำเนิน การตลาดเดิมๆที่เราใช้ คู่ต่อสู้ไม่ได้หยุดพัฒนา และที่สำคัญคือลูกค้าก็ไม่มีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว