คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ออกคำสั่งใหม่ ให้มีการสำรวจประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้เข้ามาทำงานและผู้เข้ามาอาศัยในจังหวัด เช่น กลุ่มให้บริการหรือชุมชนแออัดที่อาจจะมีการแพร่เชื้อหรืออาจรับเชื้อ ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมายมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 14 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 4 ) ลงวันที่ 6 พ.ค.2564 แล้วให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 13/2564 เรื่องการป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 ดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายาคำสั่งนี้ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในชุมชน/หมู่บ้านที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม.เคาะประตูบ้านหรือผ่านระบบออนไลน์ในฐานข้อมูลกลางจังหวัดบุรีรัมย์สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสี่ยงการติดเชื้อฯ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2564 ถึงวันที่ 31 พ.ค.2564 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารสุขในพื้นที่จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ
ข้อ 2 ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ/เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลในหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง/อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคติดเชื้อฯ ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง/อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ ตามวันเวลาและสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคคิดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป
ข้อ 3 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคิกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทและอาจมีความผิดตามมาตร 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะกรรมการโรคคิดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประกาศผ่านเครือข่าย อสม.และผู้นำชุมชนไปตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนมาลงทะเบียนขอฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาที่บริเวณสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตซึ่งเป็นจะฉีดวัคซีนใหญ่ได้มีประชาชนเดินทางไปลงทะเบียนขอรับวัคซีนไม่ขาดสาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ข่าวดี! อย. ขึ้นทะเบียนรับรอง วัคซีนโมเดอร์นา แล้ว
นายวิสิทธิ์ จันทรสิงห์ อายุ 77 ปี อดีตโปรโมเตอร์มวยในจังหวัดบุรีรัมย์กล่าวว่า การฉีดวัคซีนไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ตนอายุมากแล้วไม่อยากให้ครอบครัวต้องมาเป็นภาระเป็นห่วง หลังฉีดแล้วไม่มีความผิดปกติใดๆ จึงอยากจะเชิญชวนให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนเพื่อให้เป็นภูมิคุ้มกันหมู่จะได้อยู่กันอย่างมีความสุขต่อไป
ขณะนายพิทักษ์ บุรานสุข อายุ 30 ปี พนักงานขายบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งบอกว่า หลังจากทราบข่าวว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีคำสั่งให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ส่วนตัวไม่ถือว่าเป็นการบังคับตรงกันข้ามเป็นเรื่องที่ดีที่วัคซีนจะเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วเท่ากับประชาชนส่วนใหญ่จะปลอดภัย
สำหรับการฉีดวัคซีนที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางมาฉีดจะต้องเดินทางมาลงทะเบียนและรับบัตรคิวด้วยตนเอง โดยจุดนี้จะรับฉีดได้วันละ 1,600 คนต่อวัน หากได้คิวเกินกว่านี้เจ้าหน้าที่จะนัดมาวันมาถัดไป
Advertisement