Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มหรือไม่ เหมาะกับคนขับรถประเภทไหนมากที่สุด

ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มหรือไม่ เหมาะกับคนขับรถประเภทไหนมากที่สุด

16 ธ.ค. 67
13:27 น.
|
36
แชร์

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เหมาะกับผู้ใช้รถแบบไหน ทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ต่างจากประกันชั้น 2 อย่างไร พร้อมคำแนะนำในการเลือกประกันรถที่เหมาะสมกับคุณ

ประกันภัยสำหรับรถยนต์มีทั้งแบบภาคบังคับและภาคสมัครใจ สำหรับประกันรถยนต์ภาคสมัครใจนั้นได้รับความนิยมและถูกแบ่งออกเป็นหลายชั้นเพื่อให้ตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่าง สำหรับประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมาก คือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ซึ่งหลายคนอาจยังสับสนระหว่างประกันชั้น 2 กับชั้น 2+ ว่าแตกต่างกันอย่างไร และประกันแบบไหนเหมาะกับเรา วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คืออะไร

ประกันชั้น 2+ เป็นประกันภาคสมัครใจรูปแบบหนึ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมเพื่อให้ความคุ้มครองนอกจากพ.ร.บ. (ภาคบังคับ) มอบความคุ้มครองในกรณีไฟไหม้ สูญหาย และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลในรถและบุคคลภายนอก ความครอบคลุมคล้ายคลึงกับประกันชั้น 1 แตกต่างกันตรงที่ไม่ครอบคลุมในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี มอบความคุ้มครองในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยเพิ่มขึ้นมาด้วยหากเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี

ประกันชั้น 2+ มีข้อดีหลายอย่าง คือ

• คุ้มครองครอบคลุม : ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมกว่าประกันชั้น 2 โดยเฉพาะในส่วนของความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่น

• ราคาประหยัด : มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าประกันชั้น 1 ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

• ความคุ้มค่า : เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ ประกันชั้น 2+ ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

อย่างไรก็ตามหากต้องการทำประกันชั้น 2+ ก็มีเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้

• ความคุ้มครองที่แตกต่างจากประกันชั้น 1: ประกันชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถของผู้เอาประกันกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนสิ่งของ หรือเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี

• เงื่อนไขการเคลม : มีเงื่อนไขในการเคลมที่แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทประกัน ควรศึกษารายละเอียดในกรมธรรม์ให้เข้าใจก่อนทำประกันเสมอ

• ความคุ้มครองเพิ่มเติม : หากต้องการความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น ควรสอบถามบริษัทประกันในส่วนของการเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต่างจากประกันชั้น 2 อย่างไร

ประกันชั้น 2 มอบความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถของคู่กรณีเท่านั้น รวมถึงคุ้มครองรถของผู้ทำประกันใน 2 กรณี คือ รถสูญหาย , รถไฟไหม้ เท่านั้น ตัวอย่าง หากเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของเราชนกับรถคู่กรณี บริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าซ่อมให้รถของคู่กรณี แต่รถของผู้เอาประกันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง ไม่ได้รับการชดเชยค่าซ่อมรถจากบริษัทประกัน นอกจากนี้ยังมอบความคุ้มครองให้กับบุคคลภายนอก ทั้งค่ารักษาพยาบาลและทรัพย์สินของคู่กรณี พร้อมคุ้มครองในส่วนของการประกันตัวเพื่อสู้คดี

ส่วน ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แตกต่างจากประกันชั้น 2 คือ ความคุ้มครองที่คล้ายกับประกันชั้น 1 สามารถเคลมค่าชดเชยจากบริษัทประกันได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนรถหรืออุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น หากเป็นอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีอย่างถอยรถชนต้นไม้ บริษัทประกันจะไม่คุ้มครอง ไม่สามารถเคลมประกันได้

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันชั้น 2+ มอบความคุ้มครองให้แก่ผู้เอาประกัน คือ

• ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถกรณีไฟไหม้ สูญหาย และอุบัติเหตุกรณีรถชนรถ (อุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี)

• ค่ารักษาพยาบาล กรณีต้องรักษาตัวจากอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี

• คุ้มครองค่าประกันตัวในการสู้คดี

ส่วนความคุ้มครองแก่บุคคลภายนอก คือ

• คุ้มครองค่าซ่อมรถของคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถ

• คุ้มครองค่าชดเชยกรณีบุคคลภายนอกเสียชีวิตและทรัพย์สิน

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลให้แก่บุคคลภายนอก

ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีค่าเสียหายส่วนแรก คุ้มไหม?

ค่าเสียหายส่วนแรก คือ เงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)กำหนด เพื่อป้องกันการเคลมค่าซ่อมรถอันเกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง หรือเกิดจากการขับขี่โดยประมาทของผู้เอาประกันภัย แบ่งออกเป็นค่าเสียหายส่วนแรก Excess และค่า Deduction โดยค่า Excess จะเป็นค่าเสียหายส่วนแรกสำหรับการเคลมประกันภัยชั้น 1 เท่านั้น

ส่วนค่า Deduction คือ ค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยจ่ายให้กับบริษัทประกันกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด หากต้องการเคลมค่าซ่อมจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อน ประมาณ 2,000 – 5,000 บาท แต่หากผู้เอาประกันไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก

ปกติแล้วการทำประกันชั้น 2+ ไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบเงื่อนไขในส่วนของค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องจ่าย และอัตราส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยว่าคุ้มหรือไม่ โดยเปรียบเทียบจากหลาย ๆ กรมธรรม์จะดีที่สุด

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใคร

ประกันชั้น 2+ เหมาะกับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ดี เคารพกฎจราจร รู้จักและชำนาญเส้นทางการขับขี่ในพื้นที่นั้น ๆ เป็นอย่างดี รวมถึงผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองครอบคลุมทั้งฝ่ายเราและคู่กรณี โดยให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยประกันถูกกว่า

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับประกันชั้น 1 แล้ว ประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกันในหลาย ๆ ด้าน เช่น การคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอก การสูญหายของรถ หรือความเสียหายจากอุบัติเหตุ แต่มีข้อแตกต่างอยู่ที่ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถของเราเองเฉพาะในอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น .. สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่มอบความคุ้มครองที่คุ้มค่า แนะนำประกันภัยรถยนต์จากอินชัวร์เวิร์ส เบี้ยประกันถูกที่สุด ซื้อง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถเข้าเช็คเบี้ยประกันได้ที่ insurverse.co.th

Advertisement

แชร์
ทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มหรือไม่ เหมาะกับคนขับรถประเภทไหนมากที่สุด