สอ.กฟผ.จัดสัมมนาวิชาการ 2567 ถกกฎกระทรวงและร่างประกาศ คพช. กระทบการลงทุนสหกรณ์

สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ
(สอ.กฟผ.) จัดสัมมนาวิชาการประจำปี 2567 ภายใต้หัวข้อ “ชำแหละกฎกระทรวงและร่างประกาศ คพช. ที่เกี่ยวข้องกับการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์” ซึ่งมีที่มาจากกฎกระทรวงว่าด้วยการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. 2567 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 รวมถึงร่างประกาศคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) เรื่องข้อกำหนดการฝากหรือลงทุนอย่างอื่นของสหกรณ์

คอนเทนต์แนะนำ

ชนสนั่นบนทางด่วน เก๋งพุ่งเสยท้ายรถ6ล้อ พลิกคว่ำทับคนขับดับคาซาก

“ทักษิณ”ลั่นเลือกพท.จะอยู่ดีกินดี เหน็บบางพรรคพูดเก่งแต่ทำงานไม่เป็น

นายกฯ จัดงานเลี้ยงปีใหม่ทำเนียบฯ ขอสื่อมีพลังบวก แต่อย่าบวกกัน

กฎกระทรวงและร่างประกาศดังกล่าวส่งผลต่อการส่งเสริมการออมของประชาชน การลงทุนของสหกรณ์ในตราสารหนี้และตราสารทุน รวมถึงตลาดตราสารหนี้และตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะหุ้นรัฐวิสาหกิจที่สหกรณ์ลงทุน ทั้งนี้ยังมีผลกระทบต่อรายได้ของสหกรณ์ การจ่ายดอกเบี้ยเงินรับฝาก และเงินปันผลสมาชิก โดยปัจจุบันร่างประกาศ คพช. อยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์

สร้างความรู้-เสนอแนวทางแก้ไข

วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ คือการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎกระทรวงและร่างประกาศดังกล่าวให้กับสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการร่วมกันหาแนวทางเสนอให้หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาแก้ไขข้อกำหนดการลงทุนเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย

ผลกฎกระทรวงและร่างประกาศดังกล่าว

กฎกระทรวงกำหนดให้การลงทุนในนิติบุคคลแต่ละแห่งต้องไม่เกิน 10% ของทุนเรือนหุ้นรวมกับทุนสำรองของสหกรณ์ และต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์ ในขณะที่ร่างประกาศ คพช. เพิ่มข้อกำหนดด้านสัดส่วนการลงทุน ทำให้สหกรณ์ไม่สามารถบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่างคล่องตัว และอาจต้องปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนทั้งหมด

เสียงสะท้อนจากสหกรณ์และสมาชิก

สหกรณ์หลายแห่งกังวลว่าหากร่างประกาศ คพช. มีผลบังคับใช้ จะส่งผลต่อการบริหารจัดการลงทุน การลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินปันผลของสมาชิก ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และคุณภาพชีวิตของสมาชิกโดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่สมาชิกนำเงินก้อนหลังเกษียณมาฝากเพื่อสร้างรายได้รายเดือน

จากประเด็นเหล่านี้ สมาชิกและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่างเร่งทำประชาพิจารณ์เพื่อคัดค้านร่างประกาศดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาผลกระทบต่อสมาชิกและสหกรณ์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิก และลดผลกระทบต่อการดำเนินงานและสภาพคล่องในระยะยาว