สสว. MOU ไคโก ไลฟ์ จากแดนปลาดิบ เพื่อขยายช่องทางการตลาดไปในประเทศญี่ปุ่นผ่านแพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจ Thai-Japan BIG ADVANCE GLOBAL เชื่อมต่อสถาบันการเงินทั้งไทยและญี่ปุ่น ให้บริการแก่สมาชิก ONE ID ของ สสว.
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า พิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่าง สสว. และ บริษัท ไคโก ไลฟ์ จำกัด ผ่านแพลตฟอร์ม “Thai-Japan BIG ADVANCE GLOBAL” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นสมาชิก ONE ID ของ สสว. ผ่านแพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจ Thai-Japan BIG ADVANCE GLOBAL (“TH-JP BAG”) กำหนดระยะเวลาความร่วมมือตั้งแต่ วันนี้ จนถึง วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2571 หรือมีระยะเวลา 3 ปี เป็นต้นไป
รก. ผอ. สสว. เผยอีกว่า สำหรับบทบาทของ สสว. คือ เพื่อสร้างขีดความสามารถและถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เอสเอ็มอี รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำการดำเนินธุรกิจในรูปแบบต่างๆ และร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการประกอบกิจการของเอสเอ็มอีและวิสาหกิจรายย่อย เช่น จัดหาสิทธิประโยชน์สนับสนุนการดำเนินธุรกิจ แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์ม “TH-JP BAG” และความร่วมมือในการพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจับคู่ธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น ตลอดจนการให้คำปรึกษาทางธุรกิจเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ
“บริษัท ไคโก ไลฟ์ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น คือ Kokopelli ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 64,000 ราย และธุรกิจเหล่านี้ก็จะเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยเอสเอ็มอีไทยในอนาคตอีกด้วย”
นายชินธิป พรประภา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไคโก ไลฟ์ จำกัด กล่าวว่า ขอบเขตความร่วมมือของบริษัท ได้แก่ การให้ความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของ สสว. ที่เป็นประโยชน์ให้แก่ เอสเอ็มอี และวิสาหกิจรายย่อย รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจ “TH-JP BAG” ทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศญี่ปุ่น ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจรายย่อย
“บริษัท ไคโก ไลฟ์ จำกัด ขอมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการภายใต้ MOU โดยจะร่วมกันขยายช่องทางการตลาดผ่านแพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจที่มีความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ในด้านการเชื่อมต่อสถาบันการเงินร่วมให้บริการแก่สมาชิกเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์ม ปัจจุบันมีสถาบันการเงินกว่า 80 สถาบัน ร่วมให้บริการในประเทศญี่ปุ่น การต่อยอดในประเทศไทยจะเป็นการพัฒนาคุณลักษณะของการใช้งาน เชื่อมโยงสถาบันการเงินในประเทศไทยเพื่อให้บริการร่วมในแพลตฟอร์ม TH-JP นี้ โดย Kokopelli ร่วมกับบริษัท ไคโก ไลฟ์ จำกัด พัฒนาระบบให้เหมาะกับเอสเอ็มอีไทยที่มีความแตกต่างในการทำธุรกิจและการเชื่อมต่อกับสถาบันการเงินที่แตกต่างกัน โดยอ้างอิงจากการดำเนินการที่ญี่ปุ่นเป็นพื้นฐาน รวมถึงการเชื่อมต่อเครื่องมือทางการเงินจากต่างประเทศและการสร้างโอกาสผ่านการจับคู่ธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานการผลิตและบริการของเอสเอ็มอี” นายชินธิป กล่าว
Advertisement