Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สสว. จับมือสำนักงาน ป.ย.ป. ปลดล็อกกฎหมายหนุน SME ไทยสู่เวทีโลก
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

สสว. จับมือสำนักงาน ป.ย.ป. ปลดล็อกกฎหมายหนุน SME ไทยสู่เวทีโลก

25 ก.พ. 68
14:02 น.
|
84
แชร์

สสว. ร่วมกับสำนักงาน ป.ย.ป. ลงนาม MOU เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากฎหมาย และมาตรการต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการเติบโตของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ภายใต้แนวคิด “Next Level SME : ปลดล็อกกฎหมาย ลดภาระ สร้างโอกาสเพื่อเอสเอ็มอีไทย

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สสว. และสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่าความร่วมมือครั้งนี้กำหนดแนวทางการพัฒนาไว้ใน 3 มิติหลัก ได้แก่

  1. การปลดล็อกกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายและระเบียบหลายฉบับที่ยังล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป หรือบางข้อกำหนดมีความซับซ้อน ความร่วมมือนี้จะช่วยทบทวน และปรับปรุงกฎหมายให้กระชับขึ้น คล่องตัวขึ้น รวมถึงสอดรับกับโลกธุรกิจยุคใหม่
  2. การลดภาระ เนื่องจากเอสเอ็มอีมักใช้เวลา และทรัพยากรจำนวนมากไปกับขั้นตอนทางกฎหมายที่ซับซ้อน ตั้งแต่การขออนุญาตจดทะเบียนธุรกิจ ไปจนถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ข้อตกลงนี้จึงมุ่งลดเงื่อนไขที่ยุ่งยาก ลดต้นทุนแฝง และเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ
  3. การสร้างโอกาส การสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงตลาด และแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

รักษาการผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า “อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ ได้แก่ การพัฒนากลไกช่วยเหลือ การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และการส่งเสริมให้ ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการขยายธุรกิจ” พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำว่าเอสเอ็มอีคือฟันเฟืองหลักของเศรษฐกิจไทย โดยคิดเป็นกว่า 35% ของ GDP และเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญของประเทศ สร้างงานกว่า 12.8 ล้านตำแหน่ง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของการจ้างงานรวมในประเทศ

อีกทั้งยังช่วยกระจายรายได้สู่ครัวเรือนและชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ มีความคล่องตัว และปรับตัวได้เร็วกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมถึงเป็นแหล่งบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ที่ผ่านมากฎหมายและกฎระเบียบหลายฉบับยังเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ สสว. จึงต้องเร่งปรับปรุง และทำให้กฎหมายเหล่านี้เอื้อต่อการเติบโตของเอสเอ็มอีมากขึ้น

สำหรับแนวทางสำคัญที่ สสว. กำลังดำเนินการ อาทิ ระบบ SME One ID จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเสนอปรับปรุงมาตรการด้านภาษี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าภาครัฐต้องทำให้กฎหมายเป็นเครื่องมือส่งเสริมเอสเอ็มอี มิใช่อุปสรรคต่อการเติบโต ผ่านมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่เป็นรูปธรรม เช่น การปรับปรุงกฎหมายที่ซ้ำซ้อนและเป็นอุปสรรค ลดขั้นตอนทางกฎหมายและภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น สนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดและเชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมให้เอสเอ็มอีใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจ

นางชุติมา หาญเผชิญ ผู้อำนวยการ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) เปิดเผยว่าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการผลักดันเอสเอ็มอีโดยมีความต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี เพื่อหนุนขีดการแข่งขันในเวทีโลก บันทึกข้อตกลงฉบับนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับปรุงโครงสร้างกฎหมาย เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถดำเนินธุรกิจได้สะดวกขึ้น ลดข้อจำกัดที่ไม่จำเป็น และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ

“Next Level SME จึงไม่ใช่แค่แนวคิด แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ที่ภาครัฐพร้อมขับเคลื่อน เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่อย่างแข็งแกร่งภายใต้กรอบกฎหมายที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ และส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน” ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ย.ป. กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการสามารถติดตามความคืบหน้าของโครงการได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ สสว. ที่ https://www.sme.go.th และเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ย.ป. ที่ https://sto.go.th รวมถึงช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของทั้งสองหน่วยงาน

แชร์
สสว. จับมือสำนักงาน ป.ย.ป. ปลดล็อกกฎหมายหนุน SME ไทยสู่เวทีโลก