ธุรกิจการตลาด

ค่ายรถญี่ปุ่นขึ้นราคาสิ้นเดือนนี้ "มาสด้า-มิตซูบิชิ" จ่อขึ้น 3%

20 มิ.ย. 65
ค่ายรถญี่ปุ่นขึ้นราคาสิ้นเดือนนี้  "มาสด้า-มิตซูบิชิ" จ่อขึ้น 3%

แบรนด์รถยนต์จากญี่ปุ่นกำลังจะปรับขึ้นราคาขายปลีกภายในประเทศญี่ปุ่น โดย "มาสด้า" และ "มิตซูบิชิ" ประกาศชัดขึ้นแน่ราว 3% ในช่วงเดือนกันยายนนี้ แต่ลูกค้าที่สั่งซื้อรถ จะได้ราคาแพงขึ้นตั้งแต่สิ้นเดือนนี้


Mazda Motor และ Mitsubishi Motors เป็น 2 ค่ายรถยนต์ขนาดกลางของญี่ปุ่น ที่ประกาศว่าจะปรับราคาขึ้นในตลาดญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือประมาณกันยายนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและได้รับผลกระทบจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก


มาสด้าจะขึ้นราคาสำหรับ 2 รุ่นคือ Mazda3 คอมแพค และ CX-30 SUV ซึ่งปรับขึ้นประมาณ 3% หรือ ราว 66,000 เยน (492 ดอลลาร์) โดยราคาขายปลีกของ Mazda3 จะเริ่มต้นที่ 2.22 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยราว 580,000 บาท ส่วน CX-30 SUVราคาเริ่มต้นที่ ที่ 2.39 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 630,000 บาท


mazda
ภาพจากเว็บไซต์ มาสด้า CX-30 SUV



เช่นเดียวกับ Mitsubishi Motor จะเพิ่มขึ้น 3% หรือ 150,000 เยน กับรุ่น Outlander PHEV ซึ่งเป็นรถ SUV หลักของบริษัท ราคาเริ่มต้นที่ 5.32 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยราว 1,380,000 บาท โดยทั้งมาสด้าและมิตซูบิชิได้แจ้งราคาใหม่กับตัวแทนจำหน่ายในญี่ปุ่นแล้ว โดยแม้จะกำนดขึ้นราคาในฤดูใบไม้ร่วง แต่ลูกค้าที่สั่งซื้อก่อนหน้านี้อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการส่งมอบด้วย และตัวแทนจำหน่ายบางรายคาดว่าจะเริ่มรับคำสั่งซื้อด้วยราคาใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้เลย



ต้นทุนการผลิต และค่าเงินเยนอ่อนค่าหนัก

สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า มิตซูบิชิ ให้เหตุว่าขณะนี้ราคาของวัสดุแบตเตอรี่ปรับสูงขึ้นมากจนผู้ประกอบการไม่สามารถรับมือได้ไหวอีกต่อไป โดยที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นมักจะขึ้นราคาก็ต่อเมื่อพวกเขามีการปรับโฉมรูปแบบภายใน-ภายนอกรถ หรือปรับเครื่องยนต์ แต่สำหรับครั้งนี้ ทั้ง Mazda และ Mitsubishi Motors มีความแข็งแกร่งน้อยกว่าคู่แข่งรายใหญ่ ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นจึงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ของบริษัท

อย่างไรก็ตาม การปรับราคารถยนต์ขึ้นในญี่ปุ่นยังทำได้อย่างจำกัด เพร่าะภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังฝืดเคืองมาก รวมไปถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีผู้ผลิตรายใหญ่ถึง 8 รายของประเทศ ทำให้การขึ้นราคารถยนต์ทำได้ยาก

แตกต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่บางบริษัทสามารถทำได้อย่างไม่ต้องแคร์คู่แข่ง เช่น Tesla Motor ที่ประกาศว่ากำลังขึ้นราคารถเอสยูวีรุ่นเรือธงบางรุ่น นั่นคือ Model Y อีก 3,000 ดอลลาร์


"ซูบารุ-ฮอนด้า-ซูซูกิ" กำลังพิจารณาขึ้นราคา

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ค่ายรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นอีกหลายราย กำลังจะขึ้นราคารถยนต์เช่นกัน เช่น Subaru กำลังพิจารณาที่จะขึ้นราคารถยนต์รุ่นหลักสำหรับตลาดในประเทศ แต่ยังไม่ได้กำหนดเวลาและช่วงราคาที่ขึ้นอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ Honda Motor และ Suzuki Motor ก็กำลังพิจารณาขึ้นราคาเช่นกัน

ทั้งนี้ ต้นทุนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น เช่น โลหะมีค่า เหล็ก และวัสดุอื่นๆ กำลังส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินเยนครั้งประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนถึงช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ทำให้การนำเข้าวัสดุและส่วนประกอบมีราคาแพงกว่าเดิม

มาสด้าคาดว่า ทั้งต้นทุนวัสดุที่แพงขึ้น รวมถึงต้นทุนการจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรของบริษัทลดลง 90,000 ล้านเยนในปีถึงเดือนมีนาคมปีหน้า ส่วนมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานจะลดลง 79,000 ล้านเยน ส่วนค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง "โตโยต้า" คาดการณ์ว่าต้นทุนวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้น 1.45 ล้านล้านเยน ในปีงบประมาณ 2565 จากปีก่อนหน้า


ทั้งในนี้รถยนต์จากญี่ปุ่นถูกส่งออกไปทั่วโลก และที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ก็จะปรับราคาขึ้นในตลาดต่างประเทศด้วย โดยโตโยต้าเคยขึ้นราคารถยนต์ทั้งหมด ในปี 2517 ท่ามกลางวิกฤตพลังงานโลกครั้งแรก ส่วนในปี 2551 และ 2554 โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นได้ขึ้นราคา Prius และรุ่นหลักอื่นๆ ในญี่ปุ่น โดยอ้างราคาวัสดุที่สูงขึ้น

ส่วนราคารถยนต์นำเข้าในญี่ปุ่นตอนนี้เริ่มขยับขึ้นแล้วเช่นกันตั้งแต่เดือนเดือนเมษายน Volkswagen ของเยอรมนี และ Renault ของฝรั่งเศส ได้ผลักดันราคารถยนต์รุ่นต่างๆ สำหรับตลาดญี่ปุ่นโดยเฉลี่ย 2% ถึง 4%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

Tesla ขึ้นราคาครั้งที่ 3 ปรับขึ้นรวดเดียว 2 แสน ถูกสุดอยู่ที่ 2 ล้าน

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT