VinFast บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนามเดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอเมริกา โดยล่าสุดยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เพื่อลิสต์หุ้นบนตลาด Nasdaq แล้ว หลังประกาศตั้งฐานการผลิตในรัฐนอร์ทแคโรไลนา มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7 หมื่นล้านบาท
จากการรายงานของ Bloomberg คาดว่า VinFast จะได้เสนอขายหุ้น (ชื่อย่อ “VFS”) ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)ในปีหน้า โดยมีธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ Citigroup Global Markets, Morgan Stanley, Credit Suisse และ J.P. Morgan Securities เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้ดำเนินการเสนอขายหุ้น ในเบื้องต้น ทางบริษัทยังไม่ได้เปิดเผยว่าตั้งใจจะระดมทุนเป็นมูลค่าเท่าไหร่ หรือนำเงินไปใช้กับโครงการใด
นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของ VinFast ในการวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับบริษัท และเลือกให้สหรัฐฯเป็นทั้งฐานการผลิตรถ และเป็นตลาดใหญ่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งหาก VinFast ทำสำเร็จจะเป็นบริษัทเวียดนามรายแรกที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา
VinFast บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ที่มุ่งตีตลาดนอกอาเซียน
ถ้าเทียบกับบริษัทรถยนต์อื่นๆ VinFast ถือว่าเป็นน้องใหม่ในวงการ เพราะบริษัทก่อตั้งมาเมื่อปี 2017 หรือเพียง 5 ปีเท่านั้น จึงยังไม่มีชื่อเสียงเท่าบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ โดยเฉพาะเหล่ารถไฟฟ้าจากจีน เพราะฉะนั้นบริษัทจึงมีกลยุทธ์ตีตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีกำลังซื้อและความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าประเทศในอาเซียน พร้อมตั้งโรงงานผลิตในอเมริกาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และปูทางขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก
VinFast เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ VinGroup เครือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามที่มีธุรกิจในหลายภาคส่วน เช่น อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก ปัจจุบันมีฐานการผลิตในเมือง Hai Phong ของเวียดนาม ที่มีกำลังการผลิตถึง 250,000 คันต่อปี และมีรถไฟฟ้า 2 รุ่น เป็นรถอเนกประสงค์ SUV คือ VF8 และ VF9
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หลายประเทศในอาเซียน รวมไปถึงเวียดนาม จะเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์สำคัญของโลก VinFast กลับตัดสินใจตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ และแบตเตอรี่ในสหรัฐอเมริกา ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา โดยตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 150,000 คันต่อปี
จากความเห็นของนักวิเคราะห์ แม้ว่าการที่ VinFast ตั้งโรงงานในอเมริกาจะมีความเสี่ยงเรื่องการควบคุมต้นทุนการผลิตได้ยาก แต่ VinFast ก็ยังมุ่งตีตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพราะมองว่าตลาดต่างประเทศเหล่านี้มีความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสูง มีความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน เช่นสถานีชาร์ตไฟ มากกว่าประเทศในอาเซียน รวมไปถึงแผนสำคัญคือการยกระดับแบรนด์ VinFast ให้เป็นแบรนด์ระดับโลก
9 เดือนของปี 2022 VinFast มีออเดอร์แล้ว 65,000 คัน
ใน 9 เดือนแรกของปี 2022 VinFast ทำรายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 8.78 ล้านล้านดองหรือ 1.3 หมื่นล้านบาท และได้รับออเดอร์สั่งรถยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลกถึง 65,000 คัน โดย 10,000 ในนั้นเป็นออเดอร์จากสหรัฐอเมริกา และในเดือนพฤศจิกายน VinFast ได้ทยอยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น VF8 ล็อตแรกให้แก่ลูกค้าในสหรัฐฯ แล้ว 999 คัน
ในปัจจุบัน VinFast ตั้งสาขาใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่เมืองลอส แอนเจลิส มีโชว์รูม 6 แห่งในแคลิฟอร์เนีย รวมไปถึงแฟลกชิป โชว์รูมในซานตา โมนิกา และมีแผนที่จะเปิดโชว์รูมกว่า 50 แห่งในฝรั่งเศส เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์
ขายรถได้ถูกกว่าเจ้าอื่นเพราะให้เช่าแบตเตอรี่
โดยกุญแจสู่ความสำเร็จของ VinFast อย่างหนึ่งคือโมเดลธุรกิจของ VinFast ที่เปิดให้ลูกค้าเช่าแบตเตอรี่รถยนต์ได้โดยไม่ต้องซื้อขาด และสามารถนำไปเปลี่ยนได้ฟรีเมื่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ต่ำกว่า 70% ทำให้ VinFast สามารถขายรถไฟฟ้าได้ในราคาที่ค่อนข้างถูกกว่าเจ้าอื่น
โดยในอเมริกา VF8 ราคาเริ่มต้นที่ 40,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.4 ล้านบาท ในขณะที่ VF9 ราคาเริ่มต้น 55,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านบาท และลูกค้าสามารถเลือกจ่ายค่าเช่าตามระยะทาง หรือเหมาจ่ายแบบไม่จำกัดระยะทางก็ได้ โดยแพลนแรกราคาเริ่มต้น 35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,200 บาทต่อเดือน และคิดเพิ่มไมล์ละ 0.11 ดอลลาร์หากวิ่งเกิน 310 ไมล์ต่อเดือน ส่วนแพลนแบบเหมาจ่ายเริ่มที่ 110 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3800 บาท
ที่มา: CNBC, Bloomberg, Electrive, Time