เทศกาลสงกรานต์ 2568 เติมออกซิเจนเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง เมื่อบรรยากาศแห่งความชุ่มฉ่ำกลับมาคึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งภาครัฐจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ อาทิ Maha Songkran World Water Festival 2025 และกิจกรรมในส่วนภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่
เทศกาลสงกรานต์ 2568 เติมออกซิเจนเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง เมื่อบรรยากาศแห่งความชุ่มฉ่ำกลับมาคึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งภาครัฐจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ อาทิ Maha Songkran World Water Festival 2025 และกิจกรรมในส่วนภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่าในช่วงสัปดาห์สงกรานต์ (7–13 เม.ย. 2568) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยถึง 666,180 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าราว 10.73% หรือกว่า 64,000 คน เฉลี่ยวันละ 95,169 คน โดยมีมาเลเซีย (102,106 คน) จีน (82,274 คน) อินเดีย (55,158 คน) รัสเซีย (40,283 คน) และสหราชอาณาจักร (32,119 คน) โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน อินเดีย มาเลเซีย และรัสเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 28.20% 23.56% 10.67% และ 8.40% ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักร มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 8.49% คือกลุ่มที่เข้ามาไทยมากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว
น่าสนใจว่า นักท่องเที่ยวจาก จีน เพิ่มขึ้นถึง 28.2% ขณะที่ อินเดีย โต 23.56% และ มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 10.67% สะท้อนให้เห็นถึงพลังของตลาดระยะใกล้ (Short-haul market) ที่ตอบรับกิจกรรมสงกรานต์อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ ซึ่งเป็นเมืองหลักในการจัดงานระดับนานาชาติ
ข้อมูล ณ วันที่ 14 เม.ย. ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 13 เม.ย. ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปแล้ว 10.7 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 516,589 ล้านบาท โดย จีน ยังครองแชมป์จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมสูงสุดที่ 1.47 ล้านคน ตามด้วย มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้
งาน “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันสีลม” ที่ถนนสีลม กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย กทม. ปิดถนนให้เล่นน้ำตั้งแต่เวลา 13.00–21.00 น. ระหว่างวันที่ 12–14 เม.ย. พร้อมระดมเจ้าหน้าที่เทศกิจ–ฝ่ายทำความสะอาดดูแลความปลอดภัยและคืนผิวจราจรในช่วงค่ำของแต่ละวัน
ถนนข้าวสารก็ไม่แพ้กัน บรรยากาศเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแน่นขนัดทุกค่ำคืน โดยเฉพาะวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งมีการเปิดเล่นน้ำถึงเวลา 22.00 น. พร้อมกับกิจกรรมและเวทีดนตรีสร้างความสนุกต่อเนื่องถึงท้องสนามหลวง
สรุปภาพรวมการท่องเที่ยว ณ 14 เม.ย. 68
พบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 เม.ย. 68 รวมทั้งสิ้น 10,738,424 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 516,589 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (1,470,834 คน) มาเลเซีย (1,333,596 คน) รัสเซีย (801,532 คน) อินเดีย (631,820 คน) และเกาหลีใต้ (533,752 คน)
สำหรับในสัปดาห์ 14-20 เม.ย. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลง ซึ่งเป็นแนวโน้มปกติหลังสิ้นสุดการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การปิดเรียนในภูมิภาคยุโรป การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าสงกรานต์หลักจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 เมษายน แต่บรรยากาศการท่องเที่ยวยังไม่จบ เพราะงาน “วันไหล” ทั่วประเทศยังคงจัดต่อไปจนถึงสิ้นเดือน ไม่ว่าจะเป็น บางแสน พัทยา เชียงใหม่ เกาะช้าง หรือแม้แต่พระประแดงที่ขึ้นชื่อเรื่อง "สงกรานต์ชาวมอญ" ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25–27 เม.ย.
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมดนตรีกลางแจ้ง เช่น FWD Music Live Fest #4 หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ และงานสงกรานต์ริเวอร์พาร์คไอคอนสยามที่จัดยาวถึงวันที่ 16 เม.ย. ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว
แม้เทศกาลสงกรานต์ 13–15 เมษายน จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่บรรยากาศความสนุกยังไม่จบ! หลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยยังคงจัดกิจกรรม "วันไหล" อย่างต่อเนื่อง ให้สายเล่นน้ำได้ฉลองยาวถึงปลายเดือนเมษายน 2568 ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรมและคอนเสิร์ตสุดมันส์อาทิเช่น
กรุงเทพฯ
เชียงใหม่
ชลบุรี
สมุทรปราการ
ระยอง
ตราด
นครนายก
จันทบุรี
จากตัวเลขและบรรยากาศทั่วไทย สงกรานต์ 2568 ไม่เพียงคืนความสุขให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว แต่ยังส่งแรงสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย ควบคู่ไปกับการเดินหน้ากระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวของภาครัฐ ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสร้าง “ความหวัง” และเติมออกซิเจนให้กับเศรษฐกิจไทยในปี 2568 และบรรเทาผลกระทบในสงครามการค้าที่รุนแรงอีกด้วย
ข้อมูล : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา