กองทุน Thrive Capital เข้า Tender Offer ซื้อหุ้นพนักงาน ให้สิทธิ์เสนอซื้อหุ้นคืนจากพนักงาน โดยพนักงานสามารถเลือกขายหุ้น OpenAI ที่ตนถือครองอยู่ เพื่อแลกกับเงินสด ดีลนี้ส่งผลให้มูลค่าบริษัท OpenAI พุ่งสูงแตะ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ จากความต้องการซื้อหุ้นในตลาดที่ล้นหลามในเวลานี้
Open AI สตาร์ทอัพยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก หลัง ปิดดีลมูลค่าพุ่งแตะ 8 หมื่นล้านดอลลาร์
จากข้อมูลของ The New York Times ระบุว่า OpenAI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ในซานฟรานซิสโก ได้ทำข้อตกประเมินมูลค่าบริษัทสำเร็จ โดยประเมินมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท โดยข้อตกลงนี้จะเป็นการขายหุ้นที่มีอยู่ เพื่อแลกกับเงินสด โดย Thrive Capital เป็นผู้นำการประมูล ข้อตกลงนี้เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถขายหุ้นของตนเองเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด แทนที่จะเป็นการระดมทุนตามปกติเพื่อนำเงินมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ด้าน OpenAI ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก รองจาก ByteDance และ SpaceX ตามข้อมูลจาก CB Insights
ข้อตกลงนี้เป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทใน Silicon Valley ให้ความสำคัญและทุ่มเงินมหาศาลให้กับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน generative AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถสร้างข้อความ เสียง และภาพได้ด้วยตนเอง กระแสการลงทุนนี้เริ่มต้นตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว หลังจากที่ OpenAI ดึงดูดความสนใจด้วยการเปิดตัว ChatGPT แชทบอทออนไลน์
การปิดดีลครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลายคนเชื่อว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนโลกของเราไปอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างของการประยุกต์ใช้ AI ที่น่าตื่นเต้น ได้แก่
- ChatGPT: โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถเขียนบทความ แต่งเพลง แปลภาษา และตอบคำถามได้อย่างชาญฉลาด
- DALL-E: โมเดล AI ที่สามารถสร้างภาพจากข้อความ
- DeepMind AlphaFold: โมเดล AI ที่สามารถคาดเดาโครงสร้างโปรตีน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนายา
- Sora : AI ที่สามารถแปลงข้อความสั้นๆ ให้กลายเป็นวิดีโอที่สมจริง
ดีลนี้สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้ OpenAI เพื่อลดความวุ่นวายจากปัญหาภายใน
การปิดดีลในช่วงนี้ถือว่า เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับ OpenAI ที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นในบริษัท เพราะตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เกิดปัญหามากมาย
โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน คณะกรรมการของบริษัทได้ปลด แซม อัลต์แมน ซึ่งเป็น CEO ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากสูญเสียความเชื่อมั่นในการบริหารงานของเขา การปลดจากตำแหน่งครั้งนี้จุดชนวนความวุ่นวายต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์และสร้างความกังวลกับอนาคตของบริษัท เนื่องจากพนักงานมีแนวโน้มจะลาออกตาม แซม อัลต์แมน ไป แต่สุดท้ายแล้ว เขาได้รับการแต่งตั้งให้กลับเข้าตำแหน่ง และกรรมการของบริษัทหลายคนก็ต้องลาออกจากตำแหน่งไปแทน เพื่อแก้ไขปัญหาความวุ่นวายในปีที่แล้ว OpenAI ได้ว่าจ้างบริษัทกฎหมาย WilmerHale ให้ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการและการบริหารงานของ แซม อัลต์แมน คาดว่า WilmerHale จะสรุปผลการตรวจสอบช่วงต้นปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำข้อตกลงลักษณะเดียวกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยบริษัทร่วมลงทุน Thrive Capital, Sequoia Capital, Andreessen Horowitz และ K2 Global ตกลงซื้อหุ้นของ OpenAI ในข้อเสนอซื้อหุ้นคืน ทำให้มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ราว 29 พันล้านดอลลาร์
แซม อัลต์แมน เริ่มการระดมทุนเพื่อผลิตชิป AI ครั้งใหม่
จากรายงานของทาง bloomberg ระบุว่า แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI กำลังมองหาช่องทางระดมทุนจำนวนพันล้านดอลลาร์เพื่อนำมาพัฒนาชิปเซ็ตที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ AI และ OpenAI ก็กำลังเจรจาหารือและหาโอกาสระดมทุนเพิ่ม ซึ่งหากสำเร็จ OpenAI จะมีมูลค่าตลาดที่ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และดันพวกเขาขึ้นไปเป็นอันดับ 2 ในด้านมูลค่าตลาด รองจาก SpaceX เจ้าเดียว
เป้าหมาย คือ การระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาการผลิตชิปประสิทธิภาพสูง เพื่อป้องกันการขาดแคลนซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งาน AI ในวงกว้าง และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านนี้ TSMC, Intel และ Samsung เป็นบริษัทผลิตชิปหลักๆ และมีโอกาสเป็นพันธมิตรในโครงการของ อัลต์แมน มีรายงานว่า อัลต์แมน พบกับผู้บริหารของ Samsung เมื่อเดือนที่แล้ว และ Financial Times รายงานว่าเขาได้พบกับ TSMC นอกจากนี้ยังมีการเจรจากับกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของประเทศตะวันออกกลางเกี่ยวกับการลงทุน รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย
อัลต์แมน เชื่อว่าจำเป็นต้องทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในการขออนุมัติ กำหนดเวลา และโครงสร้างของโครงการ ซีอีโอได้พบกับ จีนา เรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และกำลังเตรียมจัดประชุมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ด้วย เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ก็มีการพูดคุยกันภายในเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของ OpenAI ในตะวันออกกลาง มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าทั้ง อัลต์แมน และ เรมอนโด ได้เคยพบกันมาแล้ว
คู่แข่งเริ่มขยับหลังความสำเร็จของ ChatGPT
นับตั้งแต่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT นั้น Anthropic ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งได้ระดมทุนจาก Google และ Amazon สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ Cohere สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยอดีตนักวิจัยของ Google ก็ระดมทุนได้ 270 ล้านดอลลาร์ เพิ่มยอดเงินทุนสะสมเกิน 440 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Inflection AI ที่ก่อตั้งโดยอดีตผู้บริหารของ Google ก็ระดมทุนเพิ่มอีก 1.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมเกิน 1.5 พันล้านดอลลาร์
ที่มา The New York Times และ bloomberg