ธุรกิจการตลาด

โบอิ้งเจอวิกฤตอีกแล้ว การทดสอบ 777X ต้องหยุดชะงัก หลังพบปัญหาโครงสร้าง

21 ส.ค. 67
โบอิ้งเจอวิกฤตอีกแล้ว การทดสอบ 777X ต้องหยุดชะงัก หลังพบปัญหาโครงสร้าง

โบอิ้งเผชิญวิกฤตการณ์ครั้งใหม่! เครื่องบิน 777X ที่รอคอยมานานต้องหยุดการทดสอบอีกครั้งหลังพบปัญหาโครงสร้าง สร้างความกังวลให้กับอนาคตของโครงการและชื่อเสียงด้านคุณภาพของบริษัท นี่เป็นเพียงหนึ่งในอุปสรรคมากมายที่โบอิ้งกำลังเผชิญ ท่ามกลางวิกฤตความปลอดภัยและความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและสถานะทางการเงินของบริษัทอย่างรุนแรง

โบอิ้งเจอวิกฤตอีกแล้ว การทดสอบ 777X ต้องหยุดชะงัก หลังพบปัญหาโครงสร้าง

โบอิ้งเจอวิกฤตอีกแล้ว การทดสอบ 777X ต้องหยุดชะงัก หลังพบปัญหาโครงสร้าง

ดูเหมือนว่าเครื่องบิน 777X ของโบอิ้ง ที่ล่าช้ามาอย่างยาวนาน จะเจออุปสรรคอีกครั้ง บริษัทต้องหยุดการทดสอบชั่วคราว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข่าวร้ายที่กระทบต่อชื่อเสียงด้านคุณภาพของโบอิ้ง ในการทดสอบบินครั้งล่าสุด โบอิ้งพบปัญหาในส่วนประกอบโครงสร้างที่เชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์และปีกเครื่องบิน ทางบริษัทฯ ออกแถลงการณ์ว่า "พบส่วนประกอบที่ทำงานไม่เป็นไปตามที่ออกแบบไว้" และกำลังดำเนินการเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าวเพื่อ "บันทึกสิ่งที่เรียนรู้จากส่วนประกอบนี้" โดย The Air Current เป็นสื่อแรกที่รายงานปัญหานี้

777X ซึ่งโบอิ้งขนานนามว่าเป็น "เครื่องบินเจ็ตสองเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก" เดิมทีมีกำหนดเข้าประจำการในปี 2020 และคาดว่าจะส่งมอบเครื่องบินไปแล้วหลายร้อยลำในตอนนี้ แต่โครงการนี้กลับต้องเผชิญกับความล่าช้าและค่าใช้จ่ายที่บานปลาย อุปสรรคครั้งนี้อาจทำให้กำหนดการเปิดตัวในปี 2025 ที่ถูกเลื่อนมาแล้วต้องล่าช้าออกไปอีก โบอิ้งเสริมว่า การทดสอบบินของฝูงบินทั้งสี่ลำจะกลับมาดำเนินการต่อ "เมื่อพร้อม"

สำหรับเครื่องบินรุ่น 777 เป็นเครื่องบินที่ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับโบอิ้งนับตั้งแต่เริ่มให้บริการในปี 1995 และยังคงเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างที่ขายดีที่สุด 777X จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสายการบิน นอกเหนือจาก 777-300ER ที่ได้รับความนิยมแม้จะเริ่มเก่าแล้วก็ตาม

โบอิ้งเผชิญวิกฤตการณ์ความปลอดภัยและคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและการเงินของบริษัท

โบอิ้งเจอวิกฤตอีกแล้ว การทดสอบ 777X ต้องหยุดชะงัก หลังพบปัญหาโครงสร้าง

นี่ถือเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญสำหรับโบอิ้ง ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตการณ์ด้านความปลอดภัย หลังจากเหตุการณ์ประตูฉุกเฉินหลุดกลางอากาศบนเครื่องบิน 737 Max ของสายการบินอลาสก้าแอร์ไลน์เมื่อต้นปีนี้ โบอิ้งได้ชี้แจงว่า สาเหตุเกิดจากความบกพร่องในกระบวนการจัดทำเอกสาร ทำให้สลักเกลียวสี่ตัวที่จำเป็นสำหรับการยึดประตูฉุกเฉินไม่ได้รับการติดตั้งก่อนที่เครื่องบินจะออกจากโรงงานเมื่อปีที่แล้ว

ปัญหาของ 777X เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความกังวลด้านความปลอดภัยและคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตของโบอิ้ง ปัญหาเหล่านี้ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญในการสืบสวนของรัฐบาลกลางหลายครั้ง และการเปิดเผยข้อมูลจากผู้แจ้งเบาะแส อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายการบินและผู้โดยสารทั่วโลก แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้ว โบอิ้งจะสามารถเอาชนะแอร์บัสได้ในการสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ในเดือนกรกฎาคม แต่บริษัทยังคงตามหลังคู่แข่งในด้านคำสั่งซื้อในปีนี้อย่างมาก เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท

ล่าสุด โบอิ้งประสบภาวะขาดทุนมูลค่า 33 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงความตกต่ำของบริษัท จากวันที่ชื่อของบริษัทเคยเป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพของอเมริกา หุ้นของโบอิ้ง (BA) ปรับตัวลดลง 2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และลดลงเกือบ 30% ในปีนี้

วิกฤตการณ์ที่โบอิ้งกำลังเผชิญอยู่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่บริษัทต้องฟันฝ่าเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย คุณภาพ และความล่าช้าในการส่งมอบ จะเป็นบททดสอบสำคัญที่ชี้วัดอนาคตของบริษัท โบอิ้งจำเป็นต้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจังและโปร่งใส เพื่อให้สามารถกลับมายืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมการบินได้อีกครั้ง

อนาคตของ 777X และโครงการอื่นๆ ของโบอิ้งยังคงต้องจับตามองต่อไปว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูความเชื่อมั่นได้หรือไม่ ความสำเร็จของโบอิ้งในการกลับมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ และสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัยและคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ของตน

ที่มา CNN รายงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก Chris Isidore และ Tamara Hardingham-Gill จาก CNN รูปภาพจาก aerotime และ bloomberg

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT