POEM x McLaren เมื่อแบรนด์ไทย จับมือ ซูเปอร์คาร์ระดับโลก

ในวันที่ ยุคสมัยเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แบรนด์ก็ต้องปรับตัวตามเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ การใช้กลยุทธ์ Collaboration Marketing กลายเป็นแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆให้แก่ลูกค้า

เช่นเดียวกับ แบรนด์ห้องเสื้อผ้าชั้นนำของไทย อย่าง “โพเอม” (POEM) ได้ประกาศจับมือ กับ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ “แมคลาเรน” (McLaren) ออกแบบเสื้อผ้าแคปซูลคอลเลกชั่น “POEM x McLaren” ในดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและทันสมัย ฉลองเปิดตัว รถซูเปอร์คาร์เปิดประทุนรุ่นแรก “แมคลาเรน อาร์ทูร่า สไปเดอร์” (McLaren Artura Spider)

กลยุทธ์ Collaboration Marketing

Collaboration Marketing คือ การจับมือทางธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน มีเป้าหมายเดียวกันในการอยากขยายฐานลูกค้า (Brand Exposure) สร้างความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ บุคลิกและเรื่องราวของแบรนด์ทั้งสอง แต่สิ่งที่สำคัญคือทางแบรนด์ยังคงต้องรักษา Momentum หรือ DNA ของแบรนด์ได้ด้วย

โดยการร่วมมือของ POEM x McLaren ในครั้งนี้ แบรนด์ได้ใช้กลยุทธ์ Collaboration Marketing เพื่อต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ และเพิ่มรายได้ (Expanding Customer Base & Increasing Sales) ด้วยการขยายตลาดผ่านการแชร์ฐานลูกค้าของแต่ละแบรนด์ร่วมกัน รวมถึงดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเดิม

การผสมผสานที่ลงตัว “POEM x McLaren”

สำหรับแคปซูลคอลเลกชั่น “POEM x McLaren” โพเอมยังคงตั้งมั่นในเอกลักษณ์การออกแบบของตนเอง และผสมผสานจุดเด่นของแมคลาเรนเข้าไป ผ่านการออกแบบเส้นสายที่มีความเฉียบคมและเพรียวลมซึ่งสะท้อนถึงลักษณะของรถแข่งที่กำลังเคลื่อนที่อย่างคล่องตัว โดยมีชิ้นเด่นเป็นชุดเดรสเกาะอกผ้าเมทัลลิกสีเงินเข้ารูปที่สามารถขับเน้นสรีระของหญิงสาวได้อย่างน่าหลงใหล รวมถึงคอร์เซ็ตซิกเนเจอร์ประจำแบรนด์ที่ถูกออกแบบให้มีเส้นสายนำสายตาโฉบเฉี่ยวดั่งรถสปอร์ต อีกทั้งยังมีเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินเข้มเปิดไหล่แบบกระดุมสองแถวที่สะท้อนถึงความงดงามและความสง่างามของรถแมคลาเรน และบอดี้สูทที่จับคู่มากับเลกกิ้งด้วยเทคนิคการเล่นสีแบบออมเบร (Ombre) ที่มีเฉดสีเด่นเป็นสีส้มซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ของแมคลาเรน ซึ่งแคปซูลคอลเลกชั่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงถึงความสามารถในการผสมผสานระหว่างความงดงามและความแข็งแกร่งซึ่งเป็นจุดเด่นของทั้ง “โพเอม” (POEM) และ “แมคลาเรน” (McLaren)

เบื้องหลังการจับมือ POEM x McLaren

POEM

ฌอน–ชวนล ไคสิริ ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์ประจำแบรนด์ เปิดเผยว่า การจับมือกับ McLaren ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นก้าวใหม่ของโพเอมที่ค่อนข้างท้าทาย เพราะทางแบรนด์ยังไม่เคยออกแบบชุดที่ใช้แรงบันดาลใจจากรถมาก่อน โดยสิ่งที่เราหยิบมาเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบคือเส้นสายของรูปทรงอันโฉบเฉี่ยว หรูหรา และทรงประสิทธิภาพของแมคลาเรน อาร์ทูร่า สไปเดอร์ ซึ่งสิ่งที่กลุ่มลูกค้าของโพเอมและแมคลาเรนจะได้เห็นคือการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างศิลปะและนวัตกรรม ผ่านการออกแบบที่แสดงถึงความหรูหราและความทันสมัยที่ถูกนำเสนอผ่านเสื้อผ้าที่มีโครงสร้างเฉียบคมแต่ทรงพลังและรายละเอียดที่โดดเด่น ทุกชิ้นงานในคอลเลกชั่นนี้จะสะท้อนถึงความเป็นเลิศที่ทั้งสองแบรนด์มีร่วมกัน

McLaren

แชมป์-วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ “แมคลาเรน” (McLaren) ได้เปิดเผยสาเหตุในการเลือกโพเอมเป็นพาร์ทเนอร์ในโปรเจ็คนี้ เนื่องจากความเชี่ยวชาญในการออกแบบเสื้อผ้าที่มีโครงสร้างและรายละเอียดที่ประณีต โพเอมมีความสามารถในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ใช้เส้นสายสถาปัตยกรรมผ่านชุดได้เป็นอย่างดี เน้นสัดส่วนและโครงสร้างของร่างกายผู้หญิงได้อย่างลงตัว

โดยสอดคล้องกับแนวคิดของแมคลาเรนที่ให้ความสำคัญการกับออกแบบรถให้มีประสิทธิภาพในทุกมิติ การออกแบบที่มีเอกลักษณ์และความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของโพเอมจึงเป็นสิ่งที่เรามองหาในการร่วมกันสร้างสรรค์โปรเจ็คนี้

ประกอบกับแมคลาเรน อาร์ทูร่า สไปเดอร์ เป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นมาให้สามารถขับขี่ได้จริงในเมืองและในชีวิตประจำวัน ด้วยกำลังแบบไฮบริดประสิทธิภาพสูง ดังนั้นเราจึงมองหาพาร์ทเนอร์ที่จะสามารถทำให้ซูเปอร์คาร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวและเข้าถึงกลุ่มคนที่ชื่นชอบแฟชั่นได้ อีกทั้งยังเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ของทั้งสองแบรนด์อีกด้วย

การร่วมมือระหว่าง “POEM x McLaren” ในครั้งนี้ได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าแบรนด์ไทยสามารถก้าวขึ้นสู่เวทีระดับโลกได้อย่างสง่างาม ซึ่งความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดโอกาสให้โพเอมได้แสดงถึงศักยภาพในการออกแบบแต่ยังเป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความพิถีพิถันที่โพเอมยึดถือมาโดยตลอด และหลังจากนี้โพเอมยังมีแผนที่จะขยายแบรนด์ให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้นด้วยการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม