ธุรกิจการตลาด

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

29 ส.ค. 67
สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน อุตสาหกรรมสื่อไทยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน วลี "Media Never Stop Moving" หรือ "นวัตกรรมสื่อไม่มีวันหยุดนิ่ง" ได้สะท้อนให้เห็นถึงความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดี

บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณสำรวจภาพรวมของสื่อไทยในยุคดิจิทัล ตั้งแต่พฤติกรรมการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป แนวโน้มของสื่อแต่ละประเภท ไปจนถึงกลยุทธ์ที่ธุรกิจสามารถนำมาปรับใช้เพื่อให้เท่าทันยุคสมัยที่สื่อมีความหลากหลายและกระจัดกระจายมากขึ้น

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง วลี "Media Never Stop Moving" ที่ปรากฏในภาพสะท้อนให้เห็นถึงความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อุตสาหกรรมสื่อมีการเติบโตและแข่งขันสูง

ภาพรวมสื่อไทย ผู้บริโภคยุคใหม่กับทางเลือกไร้ขีดจำกัด

โดย Nielsen ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล ได้รายงานว่า ปัจจุบัน ภูมิทัศน์สื่อของไทยมีความหลากหลายและกระจัดกระจายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย ทำให้การเข้าถึงและดึงดูดความสนใจของพวกเขากลายเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับธุรกิจ

ทีวีและวิดีโอยังคงแข็งแกร่ง แต่สตรีมมิ่งมาแรง

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

ถึงแม้ว่าทีวีจะยังคงเป็นช่องทางหลักที่เข้าถึงผู้บริโภคไทยได้ถึง 87% แต่การเติบโตของบริการสตรีมมิ่งก็ไม่อาจมองข้าม โดย 52% ของผู้บริโภคเลือกใช้บริการสตรีมมิ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการคอนเทนต์ที่เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ความนิยมของ Live TV ที่ 71% ก็ยังคงแสดงให้เห็นว่าประสบการณ์การรับชมแบบเรียลไทม์ยังคงมีคุณค่า

ดิจิทัลคืออนาคต และ สื่อนอกบ้านและสื่อโฆษณายังมีบทบาท

อินเทอร์เน็ตเข้าถึงผู้บริโภคไทยได้ถึง 91% และโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างสูงถึง 89% แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของโลกออนไลน์ที่มีต่อชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ด้านบริการสตรีมมิ่งเพลงได้รับความนิยมถึง 56% และพอดแคสต์ก็มีผู้ฟังเพิ่มขึ้นเป็น 27% บ่งชี้ว่าคอนเทนต์เสียงกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น

ด้านสื่อนอกบ้าน (Out-of-Home: OOH) สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ 58% โดยเฉพาะสื่อที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง (Transit) ซึ่งมีสัดส่วนผู้รับชม 28% นี่แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคในขณะเดินทาง ในขณะเดียวกัน สื่อโฆษณาทั่วไปยังคงมีบทบาทในการเข้าถึงผู้บริโภค

จากข้อมูลแสดงให้เห็นถึงความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจในยุคที่สื่อมีความหลากหลายและกระจัดกระจาย ผู้บริโภคมีอำนาจในการเลือกสรรคอนเทนต์ที่ตนเองต้องการบริโภค ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวและนำกลยุทธ์ที่หลากหลายมาใช้เพื่อเข้าถึงและสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค อาทิ

  • การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง
  • การใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
  • การผสมผสานสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้บริโภค

ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลนี้ได้อย่างลึกซึ้ง จะเป็นผู้ที่สามารถประสบความสำเร็จและได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่มีความท้าทายสูงนี้

การรับชมโทรทัศน์ยังคงเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ครอบคลุมทุกเจเนอเรชั่น

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

แม้ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การรับชมโทรทัศน์ยังคงเป็นกิจกรรมสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มประชากร ข้อมูลจาก The Matt Company และ Nielsen ในปี 2024 ชี้ให้เห็นว่ากิจกรรม "ดูทีวี" ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ (Mature 55+) ซึ่งมีสัดส่วนผู้ชมสูงถึง 61% ในขณะที่คนรุ่นใหม่ Gen Z และ Gen Y ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการรับชมโทรทัศน์ในสัดส่วน 47% และ 54% ตามลำดับ

ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าโทรทัศน์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการรับชมข่าวสาร ความบันเทิง หรือรายการต่างๆ ที่ตอบสนองความสนใจของแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ การรับชมโทรทัศน์ยังสามารถเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งส่งเสริมความสัมพันธ์และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ไม่มีบทบาท ในทางตรงกันข้าม การเติบโตของเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการรับชมคอนเทนต์ของผู้คนไปอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ชมในปัจจุบันมีทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ่านโทรทัศน์แบบดั้งเดิม บริการสตรีมมิ่งออนไลน์ หรือแม้แต่ผ่านสมาร์ทโฟน

ดังนั้น ภาคธุรกิจและผู้ผลิตคอนเทนต์จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจและมีคุณภาพ ตลอดจนการนำเสนอผ่านช่องทางที่หลากหลาย จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงและดึงดูดผู้ชมในยุคดิจิทัลนี้

สตรีมมิ่งมาแรง 67% ของคนไทยรับชมวิดีโอออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

4

จากข้อมูลในภาพพบว่า 67% ของคนไทยรับชมเนื้อหาวิดีโอออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดวิดีโอออนไลน์ในประเทศไทย และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจกับการรับชมคอนเทนต์ผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น

AVOD ยังคงเป็นที่นิยม

  • ในบรรดาแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งทั้งหมด AVOD (Advertising-based Video on Demand) หรือบริการสตรีมมิ่งที่มีโฆษณาแทรก ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ชมชาวไทย โดยมีสัดส่วนผู้ชมสูงถึง 64% ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคไทยยังคงเปิดรับการรับชมคอนเทนต์ที่มีโฆษณา เพื่อแลกกับการเข้าถึงเนื้อหาได้ฟรี

SVOD เติบโตอย่างต่อเนื่อง

  • อย่างไรก็ตาม SVOD (Subscription Video on Demand) หรือบริการสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิก ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าจับตามอง โดยมีสัดส่วนผู้ชม 48% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อรับชมคอนเทนต์คุณภาพสูงและประสบการณ์การรับชมที่ไม่มีโฆษณาคั่น

ยุค Multi-Screen: สมาร์ททีวีและสมาร์ทโฟนครองการสตรีม

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

ในยุคที่ผู้บริโภคมีอุปกรณ์หลากหลายให้เลือกใช้ในการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ การสตรีมมิ่งก็กลายเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่คำถามสำคัญคือ อุปกรณ์ใดที่ผู้บริโภคเลือกใช้มากที่สุด? ข้อมูลจาก Nielsen Cross Platform Ratings เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมที่น่าสนใจของผู้บริโภคในการรับชมบริการสตรีมมิ่ง

สมาร์ททีวีและสมาร์ทโฟน สองผู้นำแห่งยุค Multi-Screen

  • จากข้อมูลในภาพ พบว่า สมาร์ททีวี/Connected TV และสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคใช้ในการรับชมบริการสตรีมมิ่งมากที่สุด โดยมีสัดส่วนถึง 56% และ 55% ตามลำดับ นี่สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในการรับชมคอนเทนต์บนหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูงอย่างสมาร์ททีวี และความสะดวกสบายในการเข้าถึงคอนเทนต์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน

คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต ยังคงมีบทบาท

  • แม้ว่าสมาร์ททีวีและสมาร์ทโฟนจะเป็นตัวเลือกหลัก แต่คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตก็ยังคงมีบทบาทในการรับชมบริการสตรีมมิ่ง โดยมีสัดส่วนผู้ใช้ 9% และ 6% ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ในการรับชมคอนเทนต์ในบางโอกาส เช่น การทำงานหรือการเรียน

การรับชม OTT ทะยานขึ้นสู่อันดับ 3 แซงหน้ากิจกรรมยอดฮิตอื่น ๆ

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

Watching OTT ranked among the top 3 online activities in Thailand พบว่าพฤติกรรมของผู้ใช้ออนไลน์ในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของการรับชม OTT (Over-the-top) ซึ่งหมายถึงบริการสตรีมมิ่งวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ต

การรับชม OTT ก้าวกระโดด

  • ในปี 2022 การรับชม OTT อยู่ในอันดับที่ 3 ของกิจกรรมออนไลน์ยอดนิยม ด้วยสัดส่วนผู้ใช้งาน 60%
  • ในปี 2023 สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 63%
  • คาดการณ์ว่าในปี 2024 จะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 67%

การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของบริการสตรีมมิ่งในประเทศไทย ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการรับชมคอนเทนต์วิดีโอออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Netflix, YouTube, และบริการท้องถิ่นอื่นๆ มากขึ้น

โซเชียลเน็ตเวิร์กและแชท ยังคงเป็นกิจกรรมหลัก

โซเชียลเน็ตเวิร์กยังคงเป็นกิจกรรมออนไลน์อันดับหนึ่งที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด โดยมีสัดส่วนผู้ใช้งานคงที่อยู่ที่ 84% ในช่วงปี 2022 ถึง 2024 ด้านการแชทเป็นกิจกรรมอันดับสองที่มีผู้ใช้งาน 80% ในปี 2024 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 81% ในปี 2023

โทรทัศน์ยังคงครองงบประมาณสื่อในไทย ท่ามกลางการเติบโตของสื่อดิจิทัล

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

TV dominates media spending in Thailand with 50% สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะมีการเติบโตของสื่อดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แต่โทรทัศน์ยังคงเป็นช่องทางหลักที่นักการตลาดไทยให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณโฆษณา โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 50% ของงบประมาณสื่อทั้งหมดในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2567 หรือคิดเป็นมูลค่า 33,875 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม งบประมาณโฆษณาทางโทรทัศน์ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อินเทอร์เน็ต (รวมถึงสื่อดิจิทัลต่างๆ) มีการเติบโตอย่างโดดเด่นถึง 8% คิดเป็นมูลค่า 18,409 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปให้ความสนใจกับสื่อออนไลน์มากขึ้น

สื่อนอกบ้าน (Out of Home) ก็มีการเติบโตที่น่าสนใจเช่นกัน โดยมีอัตราการเติบโต 8% และมีมูลค่า 9,765 ล้านบาท สื่อประเภทนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง ในทางกลับกัน สื่อดั้งเดิมอย่างวิทยุและสิ่งพิมพ์ต้องเผชิญกับความท้าทาย โดยมีอัตราการเติบโตลดลง 4% และ 30% ตามลำดับ นอกจากนี้ สื่อภาพยนตร์กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยการเติบโตสูงถึง 35%

Live TV ยังคงครองใจผู้ชมชาวไทย ท่ามกลางกระแสความนิยมของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง

สื่อไทยยุคดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรให้ทัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

Live TV takes the top spot in video consumption บ่งชี้ว่าการรับชมโทรทัศน์สด (Live TV) ยังคงเป็นกิจกรรมยอดนิยมของผู้ชมชาวไทย โดยมีจำนวนผู้ชมสูงถึง 47.8 ล้านคน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะมีผู้ใช้งานจำนวนมากถึง 31.1 ล้านคน แม้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับจำนวนผู้ชมโทรทัศน์สดได้แต่ก็เรียกได้ว่าหายใจลดต้นคอ

อย่างไรก็ตาม บริการสตรีมมิ่งก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง OTT box ซึ่งมีผู้ใช้งาน 15.1 ล้านคน และแพลตฟอร์ม SVOD (Subscription Video on Demand) ที่มีผู้ใช้งาน 8.2 ล้านคน นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของผู้ให้บริการโทรทัศน์ (Broadcaster platform) ก็มีผู้ใช้งาน 5.3 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชมยังคงให้ความสำคัญกับเนื้อหาจากผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ดั้งเดิม

คนรุ่นใหม่กับคอนเทนต์พรีเมียม โอกาสทองของธุรกิจสตรีมมิ่ง

คนรุ่นใหม่กับคอนเทนต์พรีเมียม โอกาสทองของธุรกิจสตรีมมิ่ง

Younger gen lean towards premium content ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่าสนใจในพฤติกรรมการบริโภคสื่อของคนรุ่นใหม่ (Gen Z และ Gen Y) เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป (Mature) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโน้มเอียงไปสู่คอนเทนต์พรีเมียมที่ชัดเจน

คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ

  • บริการสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิก (SVOD): กลุ่มคนรุ่นใหม่มีสัดส่วนการใช้บริการ SVOD สูงกว่ากลุ่ม Mature อย่างมีนัยสำคัญ (50% เทียบกับ 43%) สะท้อนให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพสูงและประสบการณ์การรับชมที่ไร้โฆษณา
  • AVOD (Advertising-based Video on Demand): แม้ว่า AVOD จะเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่คนรุ่นใหม่กลับมีสัดส่วนการใช้งานต่ำกว่ากลุ่ม Mature (57% เทียบกับ 43%) นี่อาจบ่งชี้ว่าคนรุ่นใหม่ไม่ต้องการถูกขัดจังหวะด้วยโฆษณา และมองหาประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นกว่า

ทีวีและโซเชียลมีเดียยังคงเป็นช่องทางหลัก

  • ทีวี: แม้ว่าคนรุ่นใหม่จะใช้เวลากับทีวีน้อยกว่ากลุ่ม Mature (39% เทียบกับ 61%) แต่ทีวียังคงเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงผู้ชมกลุ่มนี้
  • โซเชียลมีเดีย: เป็นช่องทางที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยมีสัดส่วนการใช้งานสูงถึง 59% ใกล้เคียงกับกลุ่ม Mature (58%)

OTT Box กำลังมาแรง

  • OTT Box อุปกรณ์ OTT Box ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีสัดส่วนการใช้งานถึง 53% ซึ่งสูงกว่ากลุ่ม Mature (47%) สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการเข้าถึงคอนเทนต์สตรีมมิ่งบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่

พฤติกรรมการบริโภคสื่อของชาวกรุงเทพฯ ทีวี ยังครองใจ แต่สตรีมมิ่งกำลังมาแรง

คนรุ่นใหม่กับคอนเทนต์พรีเมียม โอกาสทองของธุรกิจสตรีมมิ่ง

Bangkokians with cross-platform consumption habits ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่หลากหลายของชาวกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมผสานระหว่างสื่อดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ทีวียังคงเป็นช่องทางหลัก

  • ทีวี: ยังคงเป็นช่องทางหลักในการรับชมคอนเทนต์ของชาวกรุงเทพฯ โดยมีสัดส่วนผู้ชมสูงถึง 53% สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่ยังคงแข็งแกร่งของสื่อดั้งเดิมนี้

สตรีมมิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

  • TrueID : เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีสัดส่วนผู้ชม 22.5%
  • AIS Play: ตามมาเป็นอันดับสองด้วยสัดส่วนผู้ชม 11%
  • Netflix, 3 Plus และ youtube: มีสัดส่วนผู้ชม 3.4%, 7.3% และ 3% ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริการสตรีมมิ่งระดับโลกและในประเทศ

ข้อมูล บ่งชี้ว่าชาวกรุงเทพฯ มีพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์แบบผสมผสาน โดยมีการรับชมทั้งทีวีแบบดั้งเดิมและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ

3 แนวทางการปรับกลยุทธ์สื่อให้เท่าทันยุคดิจิทัล

คนรุ่นใหม่กับคอนเทนต์พรีเมียม โอกาสทองของธุรกิจสตรีมมิ่ง

ยุคที่สื่อมีพลวัตและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเนื้อหาผ่านหลากหลายช่องทาง ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์สื่ออย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. สื่อไม่เคยหยุดนิ่ง กลยุทธ์ผสมผสานสื่อยังคงเป็นสิ่งจำเป็น

  • ในยุคที่ผู้บริโภคบริโภคคอนเทนต์ผ่านหลากหลายหน้าจอ การใช้กลยุทธ์ผสมผสานสื่อ (Media Mix Strategy) ยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แบรนด์ต้องมั่นใจว่าแพลตฟอร์มและเนื้อหาของตนพร้อมสำหรับการมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและสอดคล้องกันในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน

2. สตรีมมิ่งคืออนาคต

  • การเติบโตของการบริโภควิดีโอดิจิทัล รวมถึง Connected TV (CTV) สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ชมที่กำลังเปลี่ยนไปสู่การสตรีมมิ่ง แบรนด์ควรให้ความสำคัญกับการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การจัดการกับความหลากหลายของสื่อด้วยการวัดผลข้ามแพลตฟอร์ม

  • การวัดผลข้ามแพลตฟอร์มช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจภาพรวมของผู้ชมได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมทางทีวีหรือแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดและความสำเร็จเชิงกลยุทธ์

ความจำเป็นที่แบรนด์ต้องปรับตัวให้เท่าทันยุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ผสมผสานสื่อ การสร้างสรรค์เนื้อหาสำหรับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และการวัดผลข้ามแพลตฟอร์ม เพื่อให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง นำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่รอบคอบและประสบความสำเร็จในระยะยาว

ก้าวต่อไปของสื่อไทยในยุคดิจิทัล

จากข้อมูลและแนวโน้มที่ได้กล่าวมาทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมสื่อไทยกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ภูมิทัศน์ของสื่อมีความซับซ้อนและท้าทายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ยังมีโอกาสใหม่ๆ รออยู่สำหรับผู้ที่สามารถปรับตัวและนำนวัตกรรมมาใช้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชม การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือการวัดผลที่มีประสิทธิภาพ ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัลนี้

สื่อไทยจะไม่หยุดนิ่ง และเราก็ไม่ควรหยุดนิ่งเช่นกัน การเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และปรับตัวให้ทันกับกระแสโลก จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถเติบโตและก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงในอุตสาหกรรมสื่อที่ "นวัตกรรมไม่มีวันหยุดนิ่ง" นี้

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT