ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง General Motors (GM) ก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ พวกเขาประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ปลดพนักงานกว่า 1,700 คน เพื่อเตรียมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ GM และอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ GM ก็พร้อมที่จะเดิมพันอนาคตของพวกเขาไว้กับมัน
GM ปลดพนักงานกว่า 1,700 คน เตรียมปรับโรงงานผลิตรถยนต์ EV
General Motors (GM) กำลังเผชิญกับความจำเป็นในการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญ โดยล่าสุดมีรายงานว่าบริษัทเตรียมลดจำนวนพนักงานลงกว่า 1,700 ตำแหน่ง ณ โรงงาน Fairfax Assembly ในรัฐแคนซัส ซึ่งเป็นไปตามประกาศแจ้งการปรับตัวและฝึกอบรมแรงงานใหม่ (WARN) ที่บริษัทได้เผยแพร่ก่อนหน้านี้
โฆษกของ GM ได้ยืนยันข่าวการเลิกจ้างที่ Automotive News รายงานเป็นที่แรก โดยระบุว่าการเลิกจ้างจะดำเนินการเป็นสองระยะ เริ่มจากระยะแรกในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพนักงานประจำ 686 คนที่จะถูกพักงานชั่วคราว และพนักงานชั่วคราว 250 คนที่จะถูกเลิกจ้าง ส่วนระยะที่สองจะเริ่มในวันที่ 12 มกราคมปีหน้า โดยจะมีพนักงานประจำ 759 คนที่ถูกพักงานชั่วคราว
การตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่จำเป็น
การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ GM กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งทำให้บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวและจัดสรรทรัพยากรใหม่เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าการเลิกจ้างจะเป็นข่าวที่น่าเสียใจ แต่ GM ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทได้ประกาศก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมว่าจะระงับการผลิต Cadillac XT4 หลังจากเดือนมกราคม 2025 ที่โรงงานในแคนซัส เพื่อปรับปรุงโรงงานและเตรียมพร้อมสำหรับการผลิต Chevrolet Bolt EV รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 390 ล้านดอลลาร์
โฆษกของ GM ยืนยันว่าการพักงานพนักงานในครั้งนี้เป็นเพียงชั่วคราว และพนักงานจะได้รับโอกาสกลับเข้าทำงานอีกครั้งเมื่อการผลิต Bolt EV เริ่มขึ้นในกลางปี 2025
การปรับตัวสู่ยุคใหม่ของยานยนต์
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ GM และอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทยังได้เลิกจ้างพนักงานประจำมากกว่า 1,000 คนทั่วโลกในหน่วยงานซอฟต์แวร์และบริการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทในการปรับตัวให้เข้ากับยุคใหม่ของยานยนต์ ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญมากขึ้น
GM กำลังเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าอาจเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ GM ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะก้าวผ่านอุปสรรคและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์
ที่มา reuters