Concord เกมที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นอนาคตของ PlayStation กลับต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็วหลังจากเปิดให้บริการได้เพียงสองสัปดาห์ สร้างความผิดหวังให้กับทั้งผู้เล่นและทีมพัฒนาที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจมาอย่างยาวนาน ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวลือที่ว่าเกมนี้มีต้นทุนการพัฒนาสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 13,000 ล้านบาท ยิ่งตอกย้ำความสูญเสียครั้งใหญ่ของ Sony และทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการและทิศทางของโครงการนี้
Concord เกมเพื่อชาว Woke โดยต้องแลกมาด้วยทุนราวๆ 13,000 ล้านบาท
รายงานข่าว ระบุว่า Concord เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งเพิ่งถูกถอดออกจาก PlayStation Store นั้น มีต้นทุนการพัฒนาสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 13,164 ล้านบาทไทย โดย ข้อมูลนี้มาจาก Sacred Symbols พอดแคสต์เกี่ยวกับ PlayStation อ้างว่า ภายในบริษัท Sony เคยยกย่องเกมนี้ว่าเป็น “อนาคตของ PlayStation” ทั้งที่ตัวเกมวางจำหน่ายได้เพียงสองสัปดาห์ก็ต้องปิดให้บริการ ทาง Sony ได้ออกมาประกาศคืนเงินให้กับผู้เล่นทุกคนที่ซื้อเกมนี้ไปแล้ว นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ภายในทีมพัฒนามีวัฒนธรรม “มองโลกในแง่ดีเกินเหตุ” ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างหรือทักท้วงเกี่ยวกับทิศทางของเกม
ไรอัน เอลลิส ผู้อำนวยการสร้างเกม Concord ลาออกแล้ว
ขณะที่รายงานข่าวจาก Kotaku ระบุว่า ไรอัน เอลลิส ผู้อำนวยการสร้างเกม Concord ได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ได้อ้างถึงแหล่งข่าว 3 รายที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ Kotaku ระบุว่า เอลลิสแสดงความรู้สึกสะเทือนใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อสื่อสารกับทีมงานหลังจากเกมเปิดตัว เนื่องจากเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเกมกำลังจะประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรง
“ไรอันมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในโครงการนี้และปรารถนาที่จะนำผู้เล่นมาร่วมสนุกกัน” อดีตนักพัฒนาคนหนึ่งกล่าวกับ Kotaku “แม้ว่าจะมีสิ่งต่าง ๆ ที่อาจดำเนินการได้แตกต่างออกไประหว่างการพัฒนา แต่เขาก็เป็นบุคคลที่ดีและมีจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตา”
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Sony ประกาศแผนการที่จะยุติการให้บริการ Concord ถอดเกมออกจากการจำหน่าย และเสนอการคืนเงินให้กับผู้เล่นทุกท่านที่ได้ซื้อเกมไป เพียงสองสัปดาห์หลังจากการเปิดตัว สำหรับข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่าเกม PS5 และ PC ดังกล่าวอาจมียอดจำหน่ายเพียง 25,000 ชุดบนทั้งสองแพลตฟอร์มนับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม
“ถึงแฟน ๆ Concord ทุกท่าน — เราได้สดับตรับฟังความคิดเห็นของทุกท่านอย่างตั้งใจนับตั้งแต่การเปิดตัว Concord บน PlayStation 5 และ PC และขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปกับ Northstar” เอลลิสกล่าวในขณะนั้น
รวมต้นทุนพัฒนาเกม PlayStation เมื่อความยิ่งใหญ่มาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย
ชื่อเกม | ต้นทุน (ดอลลาร์สหรัฐฯ) | ต้นทุน (บาทไทย) |
Concord | (ลือว่าใช่ทุนกว่า) 400 ล้าน |
13,164 ล้าน (ประมาณ)
|
Spider-Man 2 | 315 ล้าน |
10,300 ล้าน (ประมาณ)
|
The Last of Us Part 2 | 220 ล้าน |
มากกว่า 7,200 ล้าน (ประมาณ)
|
Horizon Forbidden West | 220 ล้าน |
7,200 ล้าน (ประมาณ)
|
God of War Ragnarok | 200 ล้าน |
6,500 ล้าน (ประมาณ)
|
Spider-Man 1 | 90 ล้าน |
2,900 ล้าน (ประมาณ)
|
Ghost of Tsushima | 60 ล้าน |
1,900 ล้าน (ประมาณ)
|
Horizon Zero Dawn | 47 ล้าน |
1,500 ล้าน (ประมาณ)
|
- Concord - มีข่าวลือว่า ใช้ทุนกว่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 13,164 ล้านบาท
- Spider-Man 2 - 315 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10,300 ล้านบาท
- The Last of Us Part 2 - มากกว่า 220 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ มากกว่า 7,200 ล้านบาท
- Horizon Forbidden West - 220 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7,200 ล้านบาท
- God of War Ragnarok - 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,500 ล้านบาท
- Spider-Man 1 - 90 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,900 ล้านบาท
- Ghost of Tsushima - 60 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,900 ล้านบาท
- Horizon Zero Dawn - 47 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท
แสดงให้เห็นว่า เม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่อยู่เบื้องหลังเกม PlayStation ระดับบล็อกบัสเตอร์หลายๆ เกม ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนและความทะเยอทะยานในการสร้างสรรค์เกมที่ดึงดูดผู้เล่นหลายล้านคนทั่วโลก
Spider-Man 2 ครองแชมป์เกมที่มีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูงที่สุด ด้วยงบประมาณกว่า 315 ล้านดอลลาร์ ที่ทางทีม Insomniac Games ที่จะยกระดับประสบการณ์การโหนใยไปอีกขั้น ทั้งในด้านกราฟิก, ระบบการต่อสู้, และเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ด้านเกมอย่าง The Last of Us Part 2 ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าจับตามองด้วยงบประมาณมากกว่า 220 ล้านดอลลาร์ เป็นตัวเลขนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Naughty Dog ในการสร้างประสบการณ์ที่เต็มอิ่มทั้งในด้านเนื้อเรื่อง, กราฟิก, และรูปแบบการเล่น
ตามมาติดๆ คือ เกมฟอร์มยักษ์อย่าง God of War Ragnarok และ Horizon Forbidden West ซึ่งแต่ละเกมมีงบประมาณกว่า 200 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงขนาดและขอบเขตของเกมแนวกึ่งๆ Open-world ที่ต้องการทรัพยากรมหาศาลในการสร้างโลกที่สมจริงและมีชีวิตชีวา
ถึงแม้ว่า Marvel’s Spider-Man ภาคแรก Ghost of Tsushima และ Horizon Zero Dawn - จะมีงบประมาณน้อยกว่าเกมอื่นๆ ในรายการ (ต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์) แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ นี่แสดงให้เห็นว่า แม้แต่เกมที่มีขนาดเล็กลงก็ยังต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนา
ฉะนั้น การพัฒนาเกม PlayStation ต้องการการลงทุนมหาศาล เกมเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความบันเทิง แต่ยังเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาล เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้เล่นทั่วโลก
Concord เมื่อความทะเยอทะยานสู่ความหลากหลายต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงลิ่ว
กรณีของ Concord เป็นเครื่องเตือนใจที่เจ็บปวดว่า แม้จะมีความตั้งใจดีและเงินทุนมหาศาล แต่ความสำเร็จในอุตสาหกรรมเกมไม่ได้มาง่าย ๆ การสร้างเกมที่มีความหลากหลายและครอบคลุมเป็นเป้าหมายที่น่ายกย่อง แต่ก็ต้องทำควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพและความสนุกของเกมด้วย
ความล้มเหลวของ Concord อาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความทะเยอทะยานที่เกินตัว การบริหารจัดการที่ผิดพลาด วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อการแสดงความคิดเห็น หรือแม้กระทั่งความยากลำบากในการสร้างเกมที่ "มีความหลากหลาย" อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Concord ไม่ได้หมายความว่า เราควรหยุดพยายามสร้างเกมที่มีความหลากหลาย แต่เราควรเรียนรู้จากความผิดพลาดนี้ และหาแนวทางใหม่ ๆ ในการสร้างเกมที่ทั้งสนุก มีคุณภาพ และสะท้อนความหลากหลายของโลกที่เราอาศัยอยู่
ท้ายที่สุดแล้ว อุตสาหกรรมเกมยังคงเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง การลงทุนมหาศาลไม่ได้การันตีความสำเร็จ แต่ความล้มเหลวก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสครั้งที่สอง สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากความผิดพลาด ปรับปรุง และพัฒนาต่อไป เพื่อสร้างสรรค์เกมที่น่าจดจำและมีความหมายสำหรับผู้เล่นทั่วโลก
ที่มา videogameschronicle และ JorRaptor บน X