นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. การบินไทย (THAI) กล่าวว่า การบินไทยเปิดเส้นทางบินใหม่สู่เจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย เป็นการกลับมาทำการบินเที่ยวบินเชิงพาณิชย์สู่ซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี โดยจะเริ่มในวันที่ 19 ส.ค. 2565 นี้
โดย การเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เจดดาห์ ในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ภายหลังจากที่รัฐบาลไทยได้เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนให้พี่น้องมุสลิมได้เดินทางแสวงบุญตามกิจสำคัญของศาสนา
ทั้งนี้ที่ผ่านมา การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้สนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญฮัจย์ไปยังนครเมกกะ และเมดินะห์ ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน
ด้านนายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ THAI เปิดเผยว่า เส้นทางบินกรุงเทพฯ-เจดดาห์ เป็นเส้นทางบินที่มีศักยภาพ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ ตลาดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา ธุรกิจแรงงาน และการท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจากประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเดินทางไปยังประเทศในตะวันออกกลางได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย
ทั้งนี้การบินไทยจะเริ่มทำการบินเที่ยวบินแรกในวันที่ 19 ส.ค. 2565 ในชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ด้วยตารางบินที่สะดวกสบาย ทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์ และอาทิตย์ พร้อมนำผู้โดยสารเดินทางสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งเสน่ห์มนตรา "The Magical Journey" อย่างประทับใจตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้ บริษัทได้มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับผู้โดยสาร อาทิ ผู้โดยสารชั้นประหยัดได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระเพิ่มเป็น 35 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน และชั้นธุรกิจเพิ่มเป็น 40 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน (สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม - 31 ธันวาคม 2565) รวมทั้งโปรแกรมสะสมไมล์รอยัล ออร์คิด พลัส มอบโบนัสไมล์พิเศษให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ 1,000 ไมล์ต่อเที่ยวบิน และชั้นประหยัด 500 ไมล์ต่อเที่ยวบิน (สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.-31 ต.ค. 2565 เงื่อนไขเป็นไปตามกำหนด)
ภาพ: agoda
บริการเที่ยวกรุงเทพฯ-เจดดาห์ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน โดยทำการบินทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์, และอาทิตย์
- เที่ยวบินที่ ทีจี 503 เส้นทาง กรุงเทพฯ - เจดดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 18.45 น. ถึงเจดดาห์ เวลา 22.40 น. (เวลาท้องถิ่น)
- เที่ยวบินที่ ทีจี 504 เส้นทาง เจดดาห์ - กรุงเทพฯ ออกจากเจดดาห์ เวลา 00.40 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.10 น.
สำหรับซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศในดินแดนอาหรับที่มีขนาดใหญ่ และเป็นประเทศเดียวที่มีชายฝั่งติดทั้งทะเลแดง (Red Sea) และอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf) มีสถานที่ท่องเที่ยวและสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้ง เป็นประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้สูง เป็นปัจจัยส่งเสริมสำคัญต่อความนิยมเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ชาวซาอุดีอาระเบียนิยม เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ตลอดจนความนิยมเดินทางเข้ามารักษาพยาบาล
ทั้งนี้เจดดาห์ เป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของซาอุดีอาระเบีย ได้รับการขนานนามว่าเป็นประตูสู่เมกกะ (Mecca Gate) มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย อาทิ น้ำพุกษัตริย์ฟาฮัด เป็นน้ำพุที่พุ่งสูงกว่า 305 เมตร สามารถมองเห็นได้จากเกือบทุกมุมของเมือง ตอนกลางคืนจะสว่างไปด้วยแสงสีสวยงาม ย่านเมืองเก่าเจดดาห์อัลบาลัด (Al Balad) ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของเจดดาห์ก่อนยุคน้ำมันเฟื่องฟูในปี 1970
ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมโบราณและอาคารแบบดั้งเดิมที่สร้างโดยใช้หินปะการัง และตกแต่งด้วยหน้าต่างไม้ขัดแตะที่สวยงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นแหล่งมรดกโลก และถนนเลียบทะเล (Corniche) ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และพาวิลเลียนต่างๆ ทอดตัวยาวไปตามริมทะเลยาวกว่า 30 กิโลเมตรซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามของทะเลแดง ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก นอกจากนั้น เจดดาห์ยังเป็นเมืองที่ผู้คนนิยมเดินทางเพื่อเชื่อมต่อไปสู่นครเมกกะ เมดินะห์ และเมืองอื่นๆ ในตะวันออกกลางได้อย่างสะดวก