เห็นยอดขาย 'จักรยาน Hermès' แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า สภาพเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ ทำอะไรเหล่า ‘มหาเศรษฐี’ ชาวจีนไม่ได้จริงๆ เพราะตอนนี้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์หรู “Hermès” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘อ้ายหม่าซื่อ (爱马仕)’ อย่างจักรยานสไตล์มินิมอล แต่มีราคาแพงกว่ารถยนต์ซิตี้คาร์ ขายหมดเกลี้ยงร้านในเวลาเพียงไม่กี่วัน
จักรยาน Hermès รูปลักษณ์เรียบหรู ราคาแพงหูฉี่
‘Odyssee Terre compact carrier bike’ จักรยานจาก Hermès ที่มีรูปลักษณ์ง่ายๆ ‘เมดอินฝรั่งเศส’ แลดูสบายตา ได้แรงบันดาลใจมาจากจักรยานญี่ปุ่น มีล้อสีส้มที่ตะโกนความเป็น ‘Hermès’ มาแต่ไกล บอดี้ทำด้วยอลูมิเนียมชั้นดี ผสมกับส่วนที่เป็นไม้แอชสีครีม ประดับด้วยโลโก้ของคอลเลคชันอยู่ที่ด้านหน้า พร้อมจานหน้าและแฮนด์สี Coral แสนสะดุดตา
แม้ จักรยาน Hermès คันนี้จะดูเรียบง่าย แต่ก็ยังคงความหรูหราของอานนั่งที่ทำจากหนังแท้ระดับพรีเมียมปั๊มชื่อแบรนด์ “Hermès Paris” ประกาศความลักชัวรี่ให้ทุกคนที่พบเห็น มาพร้อมกับเกียร์ 4 ระดับให้เลือกปรับความเร็ว แถมมีน้ำหนักเบาเพียง 10.9 กิโลกรัม ทำให้กลายเป็นจักรยานคู่ใจ ปั่นไปไหนก็สะดวก มีมาให้บรรดาแฟนคลับทุนหนาได้เลือกสรร 2 รุ่นด้วยกัน
- จักรยาน Hermès รุ่นธรรมดา สนนราคา 165,000 หยวน (ราว 860,000 บาท) อิงจากราคาเว็บไซต์ประเทศจีน
- จักรยาน Hermès รุ่น ‘แม่บ้านญี่ปุ่น’ ที่มาพร้อมกับตะกร้า ทั้งหน้าและหลัง ให้ปั่นไปช้อปปิ้งได้แบบคนหันมามองทั้งตลาด สนนราคา 21,500 ยูโร (ราว 770,000 บาท) อิงจากราคาเว็บไซต์ทางฝั่งยุโรป
จะเห็นได้ว่า ราคาทางฝั่งยุโรปตอนนี้ดูดีกว่ามาก เพราะค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาต่อเนื่อง จากที่เคยอยู่ในระดับ 39 บาท/ยูโร ในปีที่แล้ว เหลือใกล้ๆ 36 บาท/ยูโร เท่ากับว่าได้ส่วนลดเหนาะๆ ไปประมาณ 10% แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทั้งหน้าเว็บฝั่งยุโรปและจีน ไม่ได้เปิดให้จับจองทั้งสองรุ่นนี้แล้ว คาดว่าอาจกลับมาเปิดให้จองใหม่เร็วๆ นี้
ด้วยสเปคที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้บรรดามหาเศรษฐีชาวจีน ตามหาจักรยานซูเปอร์ลักชัวรีคันนี้มาครอบครอง จนสินค้าหมด หาซื้อไม่ได้ทั้งหน้าช้อป และหน้าเว็บ โดย Hermès บอกว่า จะเร่งหาสินค้าจากฝรั่งเศส ประเทศแม่ของแบรนด์มาเติมให้เร็วที่สุด
สำหรับมหาเศรษฐีท่านไหนที่สนใจครอบครองจักรยานสุดหรูคันนี้ เหมือนว่าจะยังสั่งได้ที่เว็บ Hermès ของสหรัฐ แต่อาจจะต้องกำเงินอีกก้อนใหญ่ๆ สำหรับจ่ายค่าภาษีนำเข้าไว้ด้วย
Hermès และคู่แข่งสินค้าแบรนด์หรู โตกระฉูดไม่แคร์เศรษฐกิจซึม
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบ ‘K-Shape Recovery’ มีอยู่จริง ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจยังเซื่องซึม ส่งผลให้ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ประสบปัญหายอดขายซบเซา สินค้าแบรนด์หรูกลับเติบโต “ไม่สนโลก” วัดได้จากยอดขายของ Hermès ที่ในไตรมาสแรก มียอดขายโตกระฉูด แตะ 2.8 พันล้านดอลลาร์ คือเป็นการเติบโตถึง 33% เทียบกับปีก่อน สะท้อนสภาพเงินในกระเป๋าตังค์ของเหล่ามหาเศรษฐีว่าแทบจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากสถานการณ์ทั่วโลกที่เป็นอยู่ในขณะนี้
เช่นเดียวกับอีกหนึ่งอาณาจักรแบรนด์หรู ‘LVMH’ ที่ครอบครองแบรนด์หรูอย่าง Christian Dior, Louis Vuitton และ Givenchy ประกาศรายได้ครึ่งปีแรกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ฟันรายได้ไปแล้วถึง 37.8 ล้านดอลลาร์ เติบโตกว่า 21% จากปีก่อน ส่วนอีกหนึ่งเครือแบรนด์หรู Capri Holdings Limited ที่ครอบครองแบรนด์ Versace, Jimmy Choo และ Michael Kors ก็กวาดยอดขายไป 1.36 ล้านดอลลาร์ โตถึง 15% จากปีที่แล้วเช่นกัน
ที่มา : Hermès, Sina, แพรว, CNBC, Retail Detail