3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก ทุกคนมีความตื่นตัวที่จะหาทางป้องกันชีวิต และทรัพย์สินของตนเอง วิธีที่ดีที่สุดในขณะนั้น คือ การทำประกันคุ้มครอง ซึ่งในขณะนั้นก็มีหลายบริษัทประกันภัย ออกผลิตภัณฑ์ประกันโควิด-19 จำนวนมาก แต่ที่นิยม กันมาก คือ เจอ จ่าย จบ คือ ตรวจพบเจอโควิด ได้รับเงินทดแทนค่าสินไหมทันที
เมื่อปีที่ผ่านมา มีบริษัทประกันภัย 2 แห่ง ที่ได้รับเชื้อโควิด-19 ไปเต็มๆ จนถึงขั้นต้องปิดกิจการกันเลยทีเดียวที่มีกรมธรรม์โควิด เจอ จ่าย จบ กว่า 1 ล้านกรมธรรม์
มาวันนี้ อีกหนึ่งบริษัทมีสัญญาณ คือ บริษัท สินมั่นคงประก้ันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK ได้รายงานผลประกอบการ ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 32,759 ล้านบาท และในปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 4,753.81 ล้านบาท เป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง 589.11% เนื่องจากมีค่าใช้จ่าย อยู่ที่ 40,728.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.25% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าสินไหมทดแทน 38,181.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.37% แบ่งเป็นค่าสินไหมทดแทนโควิด ที่มีจำนวนสูงถึง 32,919.08 ล้านบาท และค่าสินไหมทดแทนอื่นๆ จำนวน 5,262.60 ล้านบาท
ภายหลังจากประกาศตัวเลขผลประกอบการออกมา ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขายชั่วคราว (SP) กับบริษัท สินมั่นคงประก้ันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนกรณีส่วนผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ โดยจะพิจารณาเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ หรือภายในวันที่ 3 มี.ค.2566
นี่คงเป็นบริษัทประกันภัยอีกรายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จากการช่วงชิงจังหวะสถานการณ์ในจังหวะนั้นในการทำธุรกิจ บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาส แต่ในโอกาสนั้น หากไม่พิจารณาให้ดี ให้รอบคอบแล้ว โอกาสนั้นอาจทำให้เราวิกฤตได้เช่นกัน