ธุรกิจการตลาด

ซอสพริกศรีราชาสหรัฐฯ กำลังขาดตลาด แต่ทำไมซอสศรีราชาไทยยังตีตลาดไม่ได้?

6 ก.ค. 66
ซอสพริกศรีราชาสหรัฐฯ กำลังขาดตลาด แต่ทำไมซอสศรีราชาไทยยังตีตลาดไม่ได้?

ร้านอาหารเวียดนามและผู้บริโภคที่สหรัฐฯ เดือดร้อนหนัก ซอสพริกศรีราชาตราไก่ขาดตลาดจนราคาในตลาดมืดพุ่งทะลุ 2,000 บาทต่อขวด จากภาวะโลกรวนและภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตพริกหยวกฮาลาเปโญจากเม็กซิโกลดลง 

จากการรายงานของ The Guardian ซอสพริกศรีราชาตราไก่ที่ผลิตโดย ‘ฮุยฟงฟู้ดส์’ Huy Fong Foods ในสหรัฐฯ ขาดตลาดติดต่อกันตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เม็กซิโกเริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตของพริกหยวกซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากลดลงไปด้วย

นี่ทำให้ราคาของซอสพริกชนิดนี้พุ่งสูงขึ้นในตลาดมืด เพราะถึงแม้ตัวบริษัทที่ผลิตเองจะไม่ปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด คนที่มีซอสนี้ตุนไว้ก็ถือโอกาสนำของเข้าไปขายแบบอัพราคาในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Amazon และ Ebay เพราะรู้ว่าทั้งร้านอาหารและคนทั่วไปกำลังตามหาซอสตัวนี้อยู่

โดยในเวลาปกติ ซอสพริกศรีราชาตัวนี้จะถูกตั้งราคาไว้ที่ประมาณ 16.75 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับซอสขนาด 17 Oz. แต่ในปัจจุบัน ราคากลับพุ่งไปสูงสุดถึง 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อขวด หรือจาก 588 บาท ไปเป็น 2,283 บาทเลยทีเดียว

การขาดแคลนซอสศรีราชาตัวนี้ทำให้คนเดือดร้อนกันมาก โดยเฉพาะร้านอาหารเวียดนามที่ต้องใช้ซอสตัวนี้ประกอบอาหาร และเป็นซอสสำหรับอาหารโดยเฉพาะเฝอ รวมไปถึงร้านอาหารอื่นๆ ที่ต้องใช้ซอสพริกตัวนี้ ประกอบอาหารในบางเมนู 

โดยจากบทความของ Forbes ซอสพริกศรีราชาฮุยฟงครองอันดับสามในตลาดซอสพริกอเมริกันซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.5 พันล้านเหรียญ หรือราว 5.28 หมื่นล้านบาท เป็นรองเพียง Tabasco และ Frank’s RedHot เรียกได้ว่าซอสพริกศรีราชาของฮุยฟงได้กลายเป็นซอสประจำโต๊ะอาหารของชาวอเมริกันไปแล้ว

นี่จึงทำให้บางคนมองว่า ‘วิกฤตครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาส’ สำหรับผู้ผลิตซอสไทยให้ส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปขายแข่งหรือเปล่า เพราะยังไงซอสพริกศรีราชาตัวนี้ ก็มีต้นแบบมาจาก “ซอสพริกศรีราชาพานิช” ของไทยที่มาก่อนซอสพริกศรีราชาตราไก่ของฮุยฟงถึง 50 ปี

artboard1_15

 

ตีตลาดยากเพราะเอกลักษณ์อยู่ที่ ‘พริก’

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผู้ผลิตไทยจะมีโอกาสในการตีตลาดซอสพริกของสหรัฐฯ ที่ชื่นชอบซอสเผ็ด เพราะประเทศไทยก็มีการส่งออกซอสพริกให้กับประเทศตะวันตก อย่างเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์  อยู่แล้ว เมื่อมองจากมูลค่าการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ (599 ล้านบาท) เทียบกับมูลค่าตลาดของซอสพริกในสหรัฐ (5 หมื่นล้านบาท) จะเห็นได้ว่าเรายังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยนิดมาก

และปัจจัยหลักที่ทำให้เราตีตลาดสหรัฐฯ ไม่สำเร็จก็คือ ‘รสชาติ’ ซึ่งมาจากส่วนผสมหลักอย่าง ‘พริก’ ที่แตกต่างกันในซอสพริกศรีราชาของไทยเรา และซอสพริกศรีราชาตราไก่ของสหรัฐฯ 

โดยซอสพริกศรีราชาของไทยใช้ ‘พริกขี้หนู’ และ ‘พริกชี้ฟ้า’ ผสมกับ ‘กระเทียมดอง’ ทำให้มีรส ‘เผ็ดหวาน’ ในขณะที่ซอสพริกศรีราชาตราไก่ของสหรัฐฯ ใช้ ‘พริกหยวกฮาลาเปโญ’ ซึ่งมีกลิ่นและรสเปรี้ยวเฉพาะตัว กระเทียมธรรมดา และน้ำส้มสายชู ทำให้มีรสชาติ ‘เผ็ดเปรี้ยว’ นอกจากนี้ยังมีเนื้อที่หนืดกว่าเพราะมีการใส่สารสร้างความหนืด ในขณะที่ของไทยจะมีความเหลว

ซึ่งถึงแม้ในความเห็นคนไทยเรา ซอสพริกศรีราชาของไทยอาจจะมีรสชาติอร่อยกว่าซอสพริกศรีราชาฮุยฟง แต่เรื่องรสชาติก็เป็นเรื่องปัจเจก และคนอเมริกันก็ติดรสชาติแบบฮุยฟงไปแล้ว จนทำให้ยากที่เราจะใช้ผลิตภัณฑ์รสชาติแบบเราไปตีตลาดได้ 

และถึงแม้เราจะอยากทำรสชาติที่คล้ายคลึงเข้าไปแข่ง เราก็ต้องใช้พริกฮาลาเปโญที่ฮุยฟงใช้ ที่นอกจากจะหายากเพราะขาดแคลยในตอนนี้แล้ว ยังเพิ่มต้นทุนเพราะพริกนี้ไม่ใช่วัตถุดิบพื้นถิ่นของเรา และน่าจะเข้าไปแย่งกับผู้ผลิตอื่นในพื้นที่ยากอีก 

ดังนั้น ผู้ผลิตซอสพริกในไทยคงไม่มีทางเลือกมากนอกจากการหาทางทำการตลาดให้รสชาติซอสพริกแบบไทยๆ ติดปากคนต่างชาติ หรือปรับสูตรให้ได้รสใหม่ที่เข้ากับรสนิยมของคนต่างชาติมากกว่าเดิม 

 

อ้างอิง: The Guardian, Business Insider



advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT