หากเราถามว่า บริษัท ธนจิรา ทำธุรกิจอะไร? หลายๆคนคงอาจไม่ค่อยคุ้นถึงชื่อและประเทธุรกิจของเขาสักเท่าไร แต่หากบอกว่าบริษัท ธนจิรา คือ บริษัทผู้นำเข้า จัดจำหน่ายแบรนด์ระดับโลก อย่างเช่น Pandora, Marimekko, Cath Kidston และล่าสุดได้นำแบรนด์ร้านอาหารจากเซเลบริตี้เชฟชื่อดังด้วยร้าน Gordon Ramsay Bread Street Kitchen & Bar เข้ามาในประเทศไทย ที่เปิดสาขาแรกที่ The Emsphere ศูนย์การค้าแลนด์มาร์กแห่งใหม่ กลางใจสุขุมวิท อาจทำให้คุ้นหูมากขึ้น
จากผู้นำเข้าสินค้าแบรนด์ดังในไทย ขยายสู่การเป็นบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำในภูมิภาคด้วยการเตรียมบุกตลาดต่างประเทศ ‘ธนจิรา’ มีเส้นทางและโอกาสทางธุรกิจอย่างไร SPOTLIGHT พาไปรู้จักกับ ‘ธนจิรา’ ให้มากขึ้น
เปิดเส้นทางการเดินทางของ ‘ธนจิรา’
คัดสรรแบรนด์ต่างประเทศที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทย
บริษัท ธนจิรา เริ่มต้นกิจการผ่านการเป็นตัวแทนจำหน่ายประจำประเทศไทยของ Pandora แบรนด์เครื่องประดับสุดเก๋ ที่ผู้ใส่สามารถบอกเล่าเรื่องราวผ่านการเลือก ชาร์ม (จี้) จากประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี 2553
หลังจากนั้นเมื่อปี 2557บริษัทได้ก่อตั้งแบรนด์ Tilda ด้วยความตั้งใจที่ชัดเจนในการเป็นเครื่องประดับเพชรคุณภาพดีที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ตามมาด้วยการเปิดตัวเป็นตัวแทนจำหน่าย Marimekko แบรนด์เครื่องแต่งกาย และเครื่องเรือนจากฟินแลนด์ ในปี 2558 หลังจากนั้นบริษัทยังคงเสริมแกร่งพอร์ตดึงแบรนด์ Cath Kidston แบรนด์ไลฟ์สไตล์แฟชั่นจากอังกฤษ เข้ามาในประเทศไทยในปี 2560 ทำให้ปัจจุบันบริษัทได้ขยายระบบนิเวศธุรกิจถึง 4 ประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์, กลุ่มธุรกิจแฟชั่น, กลุ่มธุรกิจความงามและสุขภาพ และ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
เปิด 4 ธุรกิจภายใต้มือของ ‘ธนจิรา’
1.กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ (Lifestyle)
: แบรนด์ Pandora เครื่องประดับเงินชั้นนำจากประเทศเดนมาร์ก และแบรนด์ Cath Kidston สินค้าไลฟ์สไตล์กลิ่นอายโมเดิร์นวินเทจจากประเทศอังกฤษ
2.กลุ่มธุรกิจแฟชั่น (Fashion)
: แบรนด์ Marimekko แบรนด์สินค้าที่โดดเด่นด้านลายพิมพ์และสีสันจากประเทศฟินแลนด์ และแบรนด์ GANNI แบรนด์แฟชั่นที่มีดีไซน์และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจากดินแดนสแกนดิเนเวีย
3.กลุ่มธุรกิจความงามและสุขภาพ (Beauty & Wellness)
: แบรนด์ HARNN สินค้าบอดี้แคร์ สกินแคร์ สปา และอโรมาเทอราพี และแบรนด์ Vuudh เครื่องหอมสไตล์ไทยร่วมสมัย รวมทั้งการขยายไปสู่ธุรกิจสปาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ HARNN HERITAGE SPA, SCAPE BY HARNN, THE SPA BY HARNN, BY HARNN
4.กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage)
: แบรนด์ร้านอาหารจากเซเลบริตี้เชฟชื่อดังอย่าง Gordon Ramsay Bread Street Kitchen & Bar, Gordon Ramsay Street Pizza และ Gordon Ramsay Street Burger รวมทั้งการต่อยอดแบรนด์ภายใต้พอร์ตฟอลิโอสู่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่าง Marimekko Kafe และ Cath Kidston Tearoom
เจาะแผนธุรกิจปี 67 วิธีปั้นธุรกิจให้เติบโต
1.สื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
: เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ โดยไม่พึ่งพิงการทำโปรโมชั่นลดราคา
2.เพิ่มแบรนด์ใหม่เสริมแกร่งพอร์ตอย่างต่อเนื่อง
: - เตรียมเปิดตัวแบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนทั่วโลกด้วยสไตล์เสื้อผ้าที่หลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชื่นชอบเสื้อผ้า Streetwear และ High End ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มศักยภาพการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ให้รู้จัก TAN มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/2567
- แผนเปิดตัวแบรนด์ Street Burger ร้านเบอร์เกอร์จากอังกฤษของเชฟกอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay) เพื่อตอบรับกับกระแสฟื้นตัวของตลาดร้านอาหาร และเจาะกลุ่มนิวเจนที่เป็น Burger Lover และนักท่องเที่ยวที่อยากเปิดประสบการณ์การรับประทานเบอร์เกอร์แบบใหม่ นำเสนอเบอร์เกอร์สูตรเฉพาะจากเชฟกอร์ดอน แรมซีย์ ด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยมคัดสรรอย่างดี รสชาติอร่อย โดยคาดว่าจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการปลายปี 2567 ตั้งเป้าเปิดให้บริการทั้งหมด 3 สาขา (สยาม พารากอน, ไอคอนสยาม และ เซ็นทรัลเวิลด์)
3.ขยายสาขาแบรนด์ที่มีศักยภาพเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ
: กลุ่มบริษัทฯ วางเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ของแบรนด์ภายใต้พอร์ตโฟลิโอรวมทั้งสิ้น 23 สาขา สำหรับในต่างประเทศมีแผนขยายงานขายผ่านระบบ Multi-tier Franchise System ในประเทศจีนเพื่อขยายฐานลูกค้าระดับภูมิภาคในประเทศที่มีศักยภาพสูง และเสริมเจาะตลาดด้านออนไลน์
4.เพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร
: ผ่านการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีอัตราส่วนคงที่ เพื่อสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากทั้งสาขาเดิมและสาขาใหม่
‘ธนจิรา’ ตั้งเป้าสู่ บริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับภูมิภาค
นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ลักซ์ชัวรีระดับโลก ได้วางเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทไลฟ์สไตล์ครบวงจรอย่างแท้จริง หรือ Truly Integrated Lifestyle Company ผ่านการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง (Lifestyle Ecosystem) ด้วยการมีแบรนด์จากต่างประเทศและสร้างแบรนด์ของบริษัทเอง เพื่อสร้างความหลากหลายในระบบนิเวศ เพิ่มขีดสามารถในการแข่งขัน ผลักดันให้ TAN ก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับภูมิภาค
โชว์กำไรปี 66 โตกว่า 33%
สำหรับผลประกอบการปี 2566 ของ TAN สร้างรายได้กว่า 1,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และมีกำไรสุทธิส่วนของกลุ่มบริษัทฯ 167 ล้านบาท เติบโต 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนในปี 2567 บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้เติบโต 20% ซึ่งจะมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ประมาณ 10% และการเติบโตของยอดขายสาขาที่จะเปิดใหม่อีก 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มแบรนด์ใหม่ในกลุ่มธุรกิจแฟชั่น การวางจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ การขยายระบบนิเวศไปสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และการขยายแบรนด์กลุ่ม HARNN ไปประเทศจีนอย่างเต็มรูปแบบ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เติบโตอย่างโดดเด่นในปีนี้
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ครอบคลุมทุกมิติ
ปั้นเเบรนด์ HARNN เจาะตลาดจีน
HARNN แบรนด์สินค้าบอดี้แคร์ สกินแคร์ สปา และอโรมาเทอราพี ในหมวดหมู่ธุรกิจความงามและสุขภาพ ของ TAN จะเริ่มขยายตลาดไปยังประเทศจีนผ่าน’การค้าส่ง’ร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นประเทศจีนผ่านการสร้าง joint venture โดยตอนนี้ยังอยู่ในช่วงศึกษาตลาดจีนอยู่ แต่TAN จะถือหุ้น 55% ส่วนสาเหตุที่ HARNN จะไปบุกตลาดจีนอย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากยอดขายสินค้าและบริการของ HARNN ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าจีนเข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการของ HARNN เป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสนำสินค้าและบริการของ HARNN เข้าไปทำตลาดในจีนอย่างจริงจังในปีนี้