สินทรัพย์ดิจิทัล

USDT ใช้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบได้จริงหรือไม่ ?

24 ต.ค. 67
USDT ใช้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบได้จริงหรือไม่ ?

จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวการใช้ USDT ในการเคลื่อนย้ายเงินของคนในบริษัทแห่งหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสในช่วงนี้จำนวนประมาณ 248 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 8,200 ล้านบาท จนเกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง ทางเราจึงอยากจะยกประเด็นนี้มาเป็นกรณีศึกษาก่อนจะเข้าเนื้อหาและอาจช่วยไขข้อข้องใจให้หลายคนได้

usdt

ในมุมมองของเราจากการวิเคราะห์และตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรมจากภาพอ้างอิงดังกล่าวโดยใช้ Block No. ทั้งบน Blockchain ของ Ethereum และ Tron นั้น จริงๆแล้ว ธุรกรรมทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 123,955,973 USDT เท่านั้นเนื่องจากเป็นการโอนจำนวนเท่ากันและโอนต่อกันโดยแบ่งเป็นบนบล็อกเชน Ethereum จำนวน 69,989,993 USDT และบล็อกเชน Tron จำนวน 53,965,980 USDT และทางเรามีความเห็นเกี่ยวกับธุรกรรมทั้งสองดังนี้

usdt

สำหรับบล็อกเชนของ Ethereum ทาง Arkham Intelligence และ Etherscan มีการ Label ว่ากระเป๋าที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางยังปลายทางเป็นของ Bitfinex ผู้ให้บริการ USDT และ Kraken ที่เป็น Exchange ของฝั่งอเมริกา ทำให้ทางเรามองว่าธุรกรรมดังกล่าวดูจะเป็นการ mint USDT ของฝั่ง Kraken มากกว่า และเนื่องจากเป็นกระเป๋าของ Exchange ทั้งหมดดังนั้นเราไม่สามารถบอกได้ว่าการโอนเงินดังกล่าวเป็นการโอนเงินของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

usdt

usdt

ส่วน Address บนบล็อกเชนของ Tron จากการพิจารณา Visualization แล้ว Address ต้นทางมีการรับเงินจากหลายที่และหลาย Exchange แต่มีการรับจาก Tether โดยตรงด้วย พร้อมกับปลายทางมีแค่ 4 Address เท่านั้นคือของ Binance ที่เป็น Exchange อันดับหนึ่งของโลก และ Cobo.com ที่เป็นผู้ให้บริการกระเป๋าคริปโตฯ สำหรับสถาบัน ทำให้ทางเรามองว่ากระเป๋าดังกล่าวไม่น่าจะเป็นกระเป๋าส่วนตัวเนื่องจากมีการรับเงินจาก Tether โดยตรงจำนวนมากและหลายครั้ง ทำให้มีแนวโน้มเป็นกระเป๋าของสถาบันหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ โดยตรงมากกว่า

ดังนั้นทางเรามองว่ากระเป๋าคริปโตฯ ที่กำลังเป็นกระแสถกเถียงนั้นมีโอกาสเป็นกระเป๋าที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เป็นข่าวดังน้อยมาก สิ่งที่จะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ากระเป๋าไหนมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคือการตรวจสอบเส้นทางการเงินโดยทาง ปปง. หรือหน่วยสืบสวนที่เป็นฝั่ง Digital Asset แล้วมีการแถลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่ามีกระเป๋าคริปโตฯ ไหนเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินบ้าง ทำให้ในกรณีนี้ดูจะเป็นการ Filter ธุรกรรมมูลค่าสูงในช่วงเวลาที่มีการจับกุมแล้วอนุมานว่าคือกระเป๋าของผู้ต้องหาซึ่งไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง

แล้ว USDT ใช้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบได้หรือไม่?

USDT คือเหรียญ Stablecoin ที่ออกโดยบริษัท Tether เป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน British Virgin Island และมีสำนักงานอยู่ในทั้งสวิสเซอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา และด้วยความที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ รวมถึงมีการฝากสินทรัพย์ค้ำประกันไว้ในธนาคารของสหรัฐฯ ด้วย ทำให้หลายครั้ง Tether ต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ

โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งคว่ำบาตรกระเป๋าเงิน USDT จำนวน 8 รายการ ทำให้ Tether จำเป็นต้องทำการอายัต หรือ Freeze USDT ที่อยู่ในกระเป๋าเงินนั้นๆ ถ้าหากว่ากระเป๋าเงินที่มี USDT ถูก Freeze จะทำให้ผู้ใช้งาน ไม่สามารถโอนย้ายเหรียญไปไหนได้

ดังนั้นหากเราตรวจสอบและสามารถยืนยันได้ว่ากระเป๋าเงินไหนมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายและมีมูลค่าสูง ทางการของแต่ละประเทศสามารถทำเรื่องไปยัง Tether และขอความร่วมมือในการอายัติ USDT ได้ และจากกรณีศึกษาด้านบนจะเห็นได้ว่าหากเรารู้ว่ากระเป๋าไหนมีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาจริงๆแล้ว เราสามารถติดตามการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ต่างๆ ได้เกือบหมดยกเว้นการผ่านแพลตฟอร์มที่ช่วยในการพรางธุรกรรมอย่างเช่น Tornado Cash หรือ Privacy Blockchain ซึ่งถ้ามีธุรกรรมไหนที่ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว เราอาจมองได้ว่าผู้ต้องหาจงใจในการฟอกเงินและใช้เอาผิดได้

ส่วนเรื่องการโอนเข้า Exchange นั้นการจะโอนเงินเข้าออกมูลค่าเยอะขนาดนี้ต้องผ่านการ KYC อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ซึ่งทางการแต่ละประเทศสามารถขอข้อมูลจาก Exchange ได้หากพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริงแต่อาจจะใช้เวลาในการตามนานหน่อย เนื่องจากต้องทำเรื่องไปขอข้อมูลจาก Exchange ที่มีความเกี่ยวข้อง ซึ่ง Exchange ที่อยู่นอกขอบเขตกฎหมายไทยก็อาจจะให้ความร่วมมือได้ช้ากว่า Exchange ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในประเทศ

โดยสรุปแล้วการใช้ USDT ไม่ว่าจะผ่านกระเป๋าส่วนตัวหรือ Centralized Exchange นั้นสามารถตามได้หมด สิ่งที่ดูจะตามยากและใช้เวลามากกว่าคือการติดตามเส้นทางการเงินก่อนที่จะมาถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจจะเป็นการใช้สินทรัพย์อื่นๆ เช่น เงินสด ภาพวาด พระเครื่อง ทอง นาฬิกาหรู ที่ไม่มีการเก็บประวัติธุรกรรมที่มีความโปร่งใสเหมือนบล็อกเชน

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT