Honda และ Nissan กำลังปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะจากผู้ผลิตจีนและ Tesla ขณะที่ทั้งสองบริษัทมุ่งเน้นเพิ่มความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและลดต้นทุน เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ฮอนด้ และนิสสัน เจรจาครั้งสำคัญเพื่อควบรวมกิจการ พร้อมตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่ร้อนแรง นอกจากนี้ยังมีแผนดึงมิตซูบิชิ เข้าร่วมเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านทรัพยากรและเทคโนโลยี
ความร่วมมือครั้งใหญ่ในวงการยานยนต์ญี่ปุ่น
รายงานจาก Nikkei ระบุว่า ฮอนด้าและนิสสันกำลังหารือกันเพื่อจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งที่จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถแบ่งปันทรัพยากรและทำงานร่วมกันได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น การเจรจานี้มุ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันจาก Tesla และผู้ผลิตรถยนต์จีน
แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าบริษัทโฮลดิ้งนี้จะนำไปสู่การควบรวมกิจการเต็มรูปแบบหรือไม่ แต่ทั้งสองบริษัทได้เริ่มต้นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี EV เช่น แบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
ดึงมิตซูบิชิเสริมทัพ
มิตซูบิชิ ซึ่งนิสสันถือหุ้นอยู่ 24% อาจถูกดึงเข้ามาร่วมในโครงสร้างบริษัทโฮลดิ้งนี้ด้วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดระดับโลก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มิตซูบิชิยังไม่มีความเห็นต่อรายงานดังกล่าว
แรงกดดันจากสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า
การแข่งขันด้านราคาจาก Tesla และ BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน ยิ่งเพิ่มความกดดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นต้องเร่งปรับตัว ตลาด EV ของจีนซึ่งครองส่วนแบ่งเกือบ 70% ของยอดขายทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลายเป็นสนามรบที่ดุเดือดสำหรับแบรนด์ดั้งเดิมอย่างฮอนด้าและนิสสัน
นอกจากนี้ สงครามราคายังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของทั้งสองบริษัท นิสสันเพิ่งรายงานกำไรสุทธิครึ่งปีลดลงกว่า 90% เมื่อเทียบกับปีก่อน และต้องลดคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานประจำปีลงถึง 70%
อุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปและอเมริกาก็ไม่รอดพ้นวิกฤต
ในยุโรป Volkswagen ประกาศปิดโรงงานในเยอรมนีครั้งแรกในรอบ 87 ปี และเตรียมปิดโรงงาน Audi ในบรัสเซลส์ปีหน้า เพื่อปรับโครงสร้างและลดต้นทุน หลังตลาดอ่อนตัวและต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนในอเมริกา General Motors และ Ford ต้องชะลอการลงทุนใน EV เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น และโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จรถยนต์ยังไม่เพียงพอ
จับตานโยบายทรัมป์
การควบรวมของฮอนด้าและนิสสันอาจเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีอำนาจ โดยทรัมป์เคยขู่ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่น และอาจเรียกร้องสัมปทานเพื่ออนุมัติข้อตกลงในครั้งนี้
ดีลใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ
หากการควบรวมครั้งนี้สำเร็จ จะกลายเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ นับตั้งแต่การควบรวม Fiat Chrysler และ PSA ในปี 2021 ที่นำไปสู่การก่อตั้ง Stellantis ซึ่งเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ฮอนด้าและนิสสัน ซึ่งมียอดขายรวมกัน 7.4 ล้านคันในปี 2023 กำลังเผชิญความท้าทายใหญ่จากเทคโนโลยี EV และตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยทั้งสองบริษัทก้าวผ่านวิกฤต และรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกต่อไป
เปิดผลประกอบการและยอดขายของ Honda และ Nissan
ฮอนด้า
นิสสัน