Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ฮอนด้า-นิสสัน จับมือควบรวมกิจการ ท้าชนเทสลา ค่ายรถจีน ในสงครามราคา EV
โดย : พลวัฒน์ รินทะมาตย์

ฮอนด้า-นิสสัน จับมือควบรวมกิจการ ท้าชนเทสลา ค่ายรถจีน ในสงครามราคา EV

18 ธ.ค. 67
10:46 น.
|
21
แชร์

Highlight

ไฮไลต์

Honda และ Nissan กำลังปรับตัวเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะจากผู้ผลิตจีนและ Tesla ขณะที่ทั้งสองบริษัทมุ่งเน้นเพิ่มความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและลดต้นทุน เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ฮอนด้ และนิสสัน เจรจาครั้งสำคัญเพื่อควบรวมกิจการ พร้อมตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่ร้อนแรง นอกจากนี้ยังมีแผนดึงมิตซูบิชิ เข้าร่วมเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านทรัพยากรและเทคโนโลยี

ความร่วมมือครั้งใหญ่ในวงการยานยนต์ญี่ปุ่น
รายงานจาก Nikkei ระบุว่า ฮอนด้าและนิสสันกำลังหารือกันเพื่อจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งที่จะช่วยให้ทั้งสองบริษัทสามารถแบ่งปันทรัพยากรและทำงานร่วมกันได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น การเจรจานี้มุ่งตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันจาก Tesla และผู้ผลิตรถยนต์จีน

แม้ยังไม่มีการยืนยันว่าบริษัทโฮลดิ้งนี้จะนำไปสู่การควบรวมกิจการเต็มรูปแบบหรือไม่ แต่ทั้งสองบริษัทได้เริ่มต้นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี EV เช่น แบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

ดึงมิตซูบิชิเสริมทัพ
มิตซูบิชิ ซึ่งนิสสันถือหุ้นอยู่ 24% อาจถูกดึงเข้ามาร่วมในโครงสร้างบริษัทโฮลดิ้งนี้ด้วย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดระดับโลก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มิตซูบิชิยังไม่มีความเห็นต่อรายงานดังกล่าว

แรงกดดันจากสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า
การแข่งขันด้านราคาจาก Tesla และ BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน ยิ่งเพิ่มความกดดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นต้องเร่งปรับตัว ตลาด EV ของจีนซึ่งครองส่วนแบ่งเกือบ 70% ของยอดขายทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลายเป็นสนามรบที่ดุเดือดสำหรับแบรนด์ดั้งเดิมอย่างฮอนด้าและนิสสัน

นอกจากนี้ สงครามราคายังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของทั้งสองบริษัท นิสสันเพิ่งรายงานกำไรสุทธิครึ่งปีลดลงกว่า 90% เมื่อเทียบกับปีก่อน และต้องลดคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานประจำปีลงถึง 70%

อุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปและอเมริกาก็ไม่รอดพ้นวิกฤต
ในยุโรป Volkswagen ประกาศปิดโรงงานในเยอรมนีครั้งแรกในรอบ 87 ปี และเตรียมปิดโรงงาน Audi ในบรัสเซลส์ปีหน้า เพื่อปรับโครงสร้างและลดต้นทุน หลังตลาดอ่อนตัวและต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนในอเมริกา General Motors และ Ford ต้องชะลอการลงทุนใน EV เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น และโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จรถยนต์ยังไม่เพียงพอ

จับตานโยบายทรัมป์
การควบรวมของฮอนด้าและนิสสันอาจเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีอำนาจ โดยทรัมป์เคยขู่ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่น และอาจเรียกร้องสัมปทานเพื่ออนุมัติข้อตกลงในครั้งนี้

ดีลใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ
หากการควบรวมครั้งนี้สำเร็จ จะกลายเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ นับตั้งแต่การควบรวม Fiat Chrysler และ PSA ในปี 2021 ที่นำไปสู่การก่อตั้ง Stellantis ซึ่งเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

ฮอนด้าและนิสสัน ซึ่งมียอดขายรวมกัน 7.4 ล้านคันในปี 2023 กำลังเผชิญความท้าทายใหญ่จากเทคโนโลยี EV และตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยทั้งสองบริษัทก้าวผ่านวิกฤต และรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกต่อไป

เปิดผลประกอบการและยอดขายของ Honda และ Nissan

ฮอนด้า

  • ในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2567 (เม.ย.-มิ.ย. 2567) ฮอนด้ามีกำไรสุทธิ 395,000 ล้านเยน (ประมาณ 96,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 8.7% จากปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า
  • อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 กำไรจากการดำเนินงานลดลง 15% สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดที่ชะลอตัว
  • ในประเทศไทย ช่วงมกราคม-พฤศจิกายน 2566 ฮอนด้ามียอดขาย 84,516 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 11.9%


นิสสัน

  • ปีงบประมาณ 2022 นิสสันมียอดขายรถยนต์ทั่วโลก 3.305 ล้านคัน แม้เผชิญปัญหาการผลิตในจีนและการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์
  • ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 นิสสันในประเทศไทยมียอดขายลดลง 43% อยู่ที่ 7,968 คัน อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถพลิกฟื้นผลประกอบการ มีกำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท หลังขาดทุนต่อเนื่อง 4 ปี
  • ในตลาดโลก นิสสันยังเผชิญแรงกดดันจากยอดขายที่ลดลงในจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้องปรับกลยุทธ์ด้านการลดต้นทุนและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า
แชร์
ฮอนด้า-นิสสัน จับมือควบรวมกิจการ ท้าชนเทสลา ค่ายรถจีน ในสงครามราคา EV