ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยกำลังมองหาหนทางที่จะสร้างความโดดเด่นและยั่งยืนบนเวทีโลก "Soft Power" หรือพลังละมุน กำลังได้รับการจับตามองในฐานะกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
บทความนี้จะพาคุณสำรวจแนวคิด Soft Power ที่ผู้นำองค์กรชั้นนำของไทยนำมาปรับใช้ จากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งด้วย DEI สู่การลงทุนใน "ทุนมนุษย์" ผ่านการศึกษา และการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง "ผู้สร้าง" นวัตกรรม ทั้งหมดนี้คือเส้นทางที่ประเทศไทยกำลังก้าวเดินไปข้างหน้า เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนบนเวทีโลก
ในโอกาสครบรอบ 60 ปี สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ได้จัดงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ "Soft Power" เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของพลังแห่งความนุ่มนวลในการขับเคลื่อนองค์กรและประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง
คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และหนึ่งในผู้นำองค์กรที่ร่วมเสวนา ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า "Soft Power" คือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยโดดเด่นและแข่งขันได้ในเวทีโลก
คุณฐาปณีได้เผยถึงแนวคิดหลักของบีเจซีบิ๊กซีกรุ๊ปในการใช้ Soft Power ผ่าน 2 เสาหลัก คือ "คน" และ "คุณค่า" ภายใต้กรอบ DEI (Diversity, Equity, Inclusion) โดยเน้นย้ำถึงการสร้างองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย ยอมรับความแตกต่าง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกคนอย่างเท่าเทียม รวมถึงกลุ่ม LGBTQ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและมีโอกาสเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ
การสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมในการทำงานที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม ถือเป็นหัวใจหลักของแนวคิด DEI ที่องค์กรเรายึดมั่น นอกเหนือจากการจัดสรรสวัสดิการที่ครอบคลุมพนักงานทุกกลุ่มแล้ว เรายังนำเทคโนโลยีและ AI มาใช้เพื่อผลักดันความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริง มิใช่เพียงแค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
แนวคิดนี้มิได้เป็นเพียงอุดมคติ แต่ส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรอย่างเห็นได้ชัด ผ่านการปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งการแบ่งปันความรู้ (Knowledge Sharing) และการเสริมสร้างพลังที่แท้จริง (Soft Power) อาทิ โครงการพัฒนาด้านการศึกษาร่วมกับยูนิเซฟ และโครงการพัฒนาครูไทยทั่วประเทศ ซึ่งล้วนสะท้อนถึงการลงทุนใน "ทุนมนุษย์" อย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่น
เราเชื่อมั่นว่าการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของบุคลากรทุกคน จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและองค์กรโดยรวม
"Soft Power ที่แท้จริง คือการมีอิทธิพลโดยไม่ต้องใช้กำลัง แต่ให้คนรักและยอมรับ" คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จํากัด (มหาชน) ได้ชี้ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ "การศึกษา" ในการสร้าง Soft Power ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวเลขที่น่าสนใจ คือ ประชากรไทยที่ได้รับการศึกษาในระดับสูงมีเพียง 16% ซึ่งยังห่างไกลจากค่าเฉลี่ยของโลกที่ 28% สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทุนมนุษย์และเศรษฐกิจ
คุณศุภจีได้ยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมี Soft Power ที่โดดเด่น เป็นผลมาจากระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการศึกษาคือกุญแจสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย
"Soft Power ของเราต้องเน้นที่การสร้างผู้สร้าง ไม่ใช่แค่ผู้ใช้เทคโนโลยี" คุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย ได้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่จะเป็นจุดแข็งสำคัญของประเทศไทยในอนาคต
ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการเทคโนโลยี คุณอรนุชได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ (Disruption) มาแล้วหลายครั้ง และเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีคือ S-Curve ใหม่ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่สดใส ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับภาคส่วนที่มีศักยภาพอย่าง อาหาร เกษตรกรรม และสุขภาพ แต่ยังสามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาและสุขภาพได้อีกด้วย
ประเทศไทยมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโลก หากเราสามารถเปลี่ยนจาก "ผู้ใช้" เทคโนโลยี ไปเป็น "ผู้สร้าง" นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลกยุคดิจิทัล เพราะเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือเส้นทางสู่อนาคตใหม่ของประเทศไทย
การเดินทางสู่ความสำเร็จบนเวทีโลกในยุคดิจิทัล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ "Soft Power" หรือพลังละมุนที่เกิดจากการลงทุนใน "คน" การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง และการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ต่างหากที่จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาประเทศไทยไปสู่จุดหมาย
จากแนวคิด DEI ที่ส่งเสริมความหลากหลายและเท่าเทียม ไปจนถึงการยกระดับการศึกษาเพื่อสร้าง "ทุนมนุษย์" ที่มีคุณภาพ และการผลักดันให้คนไทยเป็น "ผู้สร้าง" นวัตกรรม ไม่ใช่แค่ "ผู้ใช้" เทคโนโลยี ทั้งหมดนี้คือเครื่องยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันสร้าง Soft Power ให้แข็งแกร่ง เพื่ออนาคตที่สดใสและยั่งยืนของประเทศไทยบนเวทีโลกใบนี้