แสงจันทร์สาดส่อง ท้องน้ำระยิบระยับ ประทีปน้อยใหญ่ล่องลอยไปตามสายธาร... เทศกาลลอยกระทง อีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมอันงดงามของไทย ที่สืบทอดต่อกันมาช้านาน ไม่เพียงสะท้อนถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของผู้คน แต่ยังแฝงไว้ด้วยพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอันน่าทึ่ง!
ในปีนี้ คาดการณ์ว่าเทศกาลลอยกระทงจะสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่าหมื่นล้านบาท กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในหลากหลายภาคส่วน ทั้งการท่องเที่ยว อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าต่างๆ เสมือนเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
เทศกาลลอยกระทง นอกจากจะเป็นประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานในสังคมไทยแล้ว ยังเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอีกด้วย จากข้อมูลของทาง SCB คาดการณ์ว่าเทศกาลลอยกระทงในปี พ.ศ. 2566 จะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจกว่า 10,005 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัจจัยสนับสนุน ดังต่อไปนี้
กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย: เทศกาลลอยกระทงเป็นตัวเร่งให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายกระทง อาหาร และเครื่องดื่ม ตลอดจนการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้บริการต่างๆ ซึ่งล้วนส่งผลให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยรวม
ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว: เทศกาลลอยกระทงถือเป็นเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดที่จัดงานลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ สุโขทัย และอยุธยา ซึ่งส่งผลดีต่อภาคธุรกิจโรงแรม ภาคธุรกิจร้านอาหาร และภาคธุรกิจบริการอื่นๆ
สร้างงาน สร้างรายได้: เทศกาลลอยกระทงก่อให้เกิดการจ้างงานในหลากหลายอาชีพ เช่น การผลิตกระทง การจำหน่ายสินค้า และการให้บริการต่างๆ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้กับประชาชนในชุมชน
กระจายรายได้สู่ชุมชน: การจัดงานลอยกระทง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับท้องถิ่น เป็นการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในระดับชุมชน
ถึงแม้ว่า ประเพณีลอยกระทง หนึ่งในเทศกาลที่งดงามและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมของไทย ซึ่งสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกลายเป็นวาระสำคัญระดับโลก ประเพณีลอยกระทงก็ต้องปรับตัว เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ และคงไว้ซึ่งความงดงามทั้งในมิติทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด คือ การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาขยะ และหันมาใช้วัสดุธรรมชาติในการประดิษฐ์กระทง หลีกเลี่ยงวัสดุที่ย่อยสลายยาก เช่น โฟม หรือพลาสติก นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้ลอยกระทงร่วมกัน หรือลอยกระทงออนไลน์ เพื่อลดปริมาณกระทง และป้องกันมลพิษทางน้ำ
นอกจากประเพณีลอยกระทง ประเพณียี่เป็ง ซึ่งมีการปล่อยโคมลอย ก็เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ต้องปรับตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการปล่อยโคมลอยเป็นจำนวนมาก หน่วยงานภาครัฐจึงได้ออกมาตรการควบคุมการปล่อยโคมลอยอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
การปรับเปลี่ยนรูปแบบของประเพณี มิใช่การลบล้างหรือทำลายคุณค่าดั้งเดิม แต่เป็นการสืบสานวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของคนไทย ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบริบทของโลก และก้าวไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
สรุปเพราะนอกเหนือจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแล้ว เทศกาลลอยกระทงยังเป็นโอกาสอันดีในการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันวัสดุที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการผลิตกระทง ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
ยิ่งไปกว่านั้น ประชาชนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะลอยกระทงผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมรณรงค์ให้ 1 ครอบครัว ลอยกระทงเพียง 1 ใบ
เทศกาลลอยกระทง ไม่เพียงแต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในหลากหลายมิติ เม็ดเงินสะพัดกว่าหมื่นล้านบาทที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงพลังของเทศกาลนี้ในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ และกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. 2566 ที่คาดการณ์ว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดกว่า 10,005 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เราต้องไม่ลืมที่จะตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เทรนด์การลอยกระทงแบบรักษ์โลก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ การลอยกระทงออนไลน์ หรือการรณรงค์ให้ 1 ครอบครัว ลอยกระทง 1 ใบ ล้วนเป็นสัญญาณเชิงบวกที่แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของคนไทยในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ท้ายที่สุดแล้ว เทศกาลลอยกระทงเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และคุณค่าของสังคมไทย การส่งเสริมให้เทศกาลนี้ดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืน จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการอนุรักษ์ สืบสาน และพัฒนา เพื่อให้เทศกาลลอยกระทงยังคงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสืบไป
อ้างอิง SCB Thailand