เวียดนามยอมลดภาษีน้ำมันทุกชนิด ช่วยประชาชนลดผลกระทบค่าเดินทางพุ่ง

เวียดนามตัดสินใจลดภาษีสิ่งแวดล้อมน้ำมันเบนซินลงอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ราคาน้ำมันถูกลง มีผล11 ก.ค.นี้ หลังค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางพุ่งสูงขึ้นกระทบเศรษฐกิจของประเทศ

ราคาน้ำมันของเวียดนามมีราคาสูงกว่าประเทศไทย โดยราคาเบนซินของเวียดเฉียด 50 บาทต่อลิตรแล้ว ขณะที่ดีเซลเวียดนามอยู่ที่ 45.18 บาทต่อลิตร ปัญหาน้ำมันแพงกระทบเศรษฐกิจเวียดนามอย่างมาก จึงทำให้สมัชชาแห่งชาติเวียดนามอนุมัติแผนลดภาษีสิ่งแวดล้อมของเชื้อเพลิงลงครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน แผนลดภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ไปจนถึงสิ้นปีนี้


รายละเอียดการลดภาษีสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้คือ สำหรับน้ำมันเบนซินลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 1,000 ดอง (0.0428 ดอลลาร์) ต่อลิตร /มันดีเซลลดเหลือ 500 ดองต่อลิตร ส่วนภาษีน้ำมันเครื่องบินจะลดลง 500 ดอง ลงไปอยู่ที่ราคาฟลอร์สำหรับน้ำมัน 1,000 ลิตร ขณะที่ภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงไว้ที่ 300 ดองต่อลิตร  ด้านกระทรวงการคลังเวียดนามคาดว่าจะจัดเก็บภาษีได้น้อยลง 32.5 ล้านล้านดอง (1.39 พันล้านดอลลาร์)

เวียดนามตั้งเป้าหมายที่จะรักษาระดับเงินเฟ้อไว้ไม่เกิน 4% ในปี 2565 โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดเดือน มิ.ย. สูงขึ้น 3.37% เมื่อเทียบรายปี นำโดยต้นทุนค่าอาหารและค่าพลังงานสูงขึ้น ขณะที่ค่าเดินทางพุ่งทะยาน 21.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งการพุ่งขึ้นของค่าเดินทางส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเวียดนามอย่างมาก 

เศรษฐกิจเวียดนามกำลังฟื้นตัวหลังจากเติบโตเพียง 2.58% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดในรอบหลายทศวรรษ แต่มาปีนี้ทางการเวียดนามตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ 7% โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเติบโตได้ถึง 7.72% โดยไตรมาส 3 ตั้งเป้าอยู่ที่ 9% และในไตรมาสที่ 4 ที่ 6.3%  เวียดนามเป็นประเทศแรกๆ ที่ยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด ทำให้โรงงานต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินการได้เต็มรูปแบบอีกครั้ง