เปิด 5 ทำเลทองที่ดินเปล่า "บางพลี" พุ่งสุดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

ราคาที่ดินในเมืองทุกวันนี้อาจแพงเกินกว่าที่จะหาซื้อได้แล้ว ทำให้หลายคนต้องมองหาที่ดินเปล่าตามแถบชานเมือง-ปริมณฑล ซึ่งจากผลสำรวจล่าสุดก็พบว่า ราคา "ที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา" กำลังปรับตัวแพงขึ้นต่อเนื่อง


ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้เปิดเผยรายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2565 พบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจซบเซาก็ตาม แต่ทั้งนี้ ก็ยังเป็นการปรับเพิ่มขึ้น "ในอัตราที่ชะลอตัวลง" เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

ตัวเลขนี้สะท้อนว่า ที่ดินชานเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเปลี่ยนแปลงของราคามาก เนื่องจากยังมีราคาไม่แพงและยังมีความต้องการนำไปใช้ในการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินในเขตชั้นใน และชั้นกลางของกรุงเทพฯมีราคาที่สูงอยู่แล้ว แม้ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นบ้าง แต่ก็ทำให้อัตราการเปลี่ยนแปลงไม่มากสูงดังเช่นในพื้นที่ชานเมือง
  
  
สำหรับ 5 อันดับที่ดินเปล่าที่มีราคาที่ดินขยายตัวมากที่สุด เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปี 2564 มีดังนี้ 
  

1. ที่ดินในโซน "บางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง" +40.5%
2. ที่ดินในโซน "บางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย" +24.2%
3. ที่ดินในโซน "เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด" +23.6%
4. ที่ดินในโซน "พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ" +12.3%
5. ที่ดินในโซน "เมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์" +8.5%

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินเปล่ามีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง มาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และล่าสุดยังได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขยายตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์

นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะผู้ประกอบการที่รัฐบาลได้ประกาศจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มอัตราโดยไม่ได้รับส่วนลด 90% เหมือนเช่นในปี 2562 – 2563 ที่ผ่านมา จึงทำให้ผู้ประกอบการต้องพิจารณาการซื้อที่ดินสะสมลดลง เพื่อควบคุมภาระภาษีที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนในการพัฒนาโครงการในระยะต่อไป


ส่วน 5 อันดับที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา "ในแนวเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าผ่าน" ในไตรมาสนี้ ที่มีราคาขยับขึ้นมากที่สุด มีดังนี้
  

1. สายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-ศาลายา) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต ปรับขึ้น 10.3% โดยราคาขึ้นมากที่สุดในเขตทวีวัฒนา และเขตตลิ่งชัน
   
   
2. สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ปรับขึ้น 10.2% โดยราคาขึ้นมากที่สุดในเขตหลักสี่ และเขตคันนายาว
   
   
3. สายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ปรับขึ้น 8.53% โดยราคาขึ้นมากที่สุดในอำเภอเมืองนนทบุรี และอำเภอบางบัวทอง
   
   
4. สายสีเขียว (สมุทรปราการ-บางปู) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต และสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดให้บริการแล้ว ปรับขึ้น 8.51% โดยราคาขึ้นมากที่สุดในอำเภอเมืองสมุทรปราการ
   
   
5. สายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4) ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต ปรับขึ้น 8.1% โดยราคาขึ้นมากที่สุดในเขตหนองแขม และเขตบางแค