เวทีการประชุมผู้นำ G20 โดดเด่นขึ้นมาในวันนี้เมื่อผู้นำของ 2 ประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐฯและจีนได้พบปะ พุดคุยกัน ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจที่เกิดขึ้นเรื่อยมา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และนายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีน ได้พบกันที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างเข้าร่วมประชุมผู้นำ G20 ซึ่งเป็นเวทีหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯ และจีน พบปะกันด้วยตัวเองนับตั้งแต่โจ ไบเดน รับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อปี 2020 แต่ที่จริงแล้วผู้นำทั้ง 2 รู้จักกันมานับทศวรรษ
การพบปะของผู้นำ 2 มหาอำนาจในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการพบกันนอกรอบการประชุม ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าทั้ง 2 ผู้นำใช้เวลาหารือกันนานถึง 3 ชั่วโมง และไบเดน แถลงว่าว่า การพบสีจิ้นผิงในครั้งนี้ ชัดเจนและตรงไปตรงมา
“เค้าชัดเจน และเราก็ชัดเจนว่าจะปกป้องผลประโยชน์และค่านิยมของอเมริกา จะส่งเสริมสิทธิมนุษยชนสากล และยืนหยัดตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ เราจะทำงานอย่างแนบแน่นกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา” ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าว และระบุด้วยว่า “เราจะแข่งขันกันอย่างจริงจัง แต่ไม่ได้มองหาความขัดแย้ง”
การประชุม G20 ในครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “ฟื้นฟูไปด้วยกัน ฟื้นฟูให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” (Recover Together, Recover Stronger) โดยเริ่มต้นวันอังคาร (15 พ.ย.) ด้วยหัวข้อสำคัญอย่างการเสริมสร้างโครงสร้างทางสุขภาพระดับโลก การเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานที่ยั่งยืน และการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล
ซึ่งหลังจากต่อเสร็จสิ้นการประชุม G20 ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 ที่ประเทศไทยด้วย ส่วนโจ เบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งตัวแทนผู้นำเข้าร่วมคือ นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจะมาร่วมประชุมแทนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ติดภารกิจ
สำหรับ G 20 คือกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 20 ประเทศ ได้แก่ สหภาพยุโรป และอีก 19 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบียบ แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ขณะที่สเปน มักได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมเป็นประจำ
