“สนามบินนานาชาติชางงี” จากสิงคโปร์ ขึ้นแท่นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก และเอเชีย ตามมาด้วยสนามบินนานาชาติฮาหมัดของกาตาร์ และสนามบินนานาชาติฮาเนดะจากญี่ปุ่น ส่วนสุวรรณภูมิของไทยคว้าอันดับที่ 68
สนามบินเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ ‘เป็นหน้าเป็นตา’ ให้กับประเทศได้ เพราะสนามบินเป็นสิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสหลังเดินลงจากเครื่องบิน และเป็นสิ่งสุดท้ายที่บอกลา ส่งนักท่องเที่ยวกลับสู่บ้านหรือต่อไปประเทศอื่นๆ ด้วยความประทับใจ
ด้วยเหตุนี้เอง เกือบทุกประเทศในโลกจึงลงทุนกับทั้งการตกแต่ง และใส่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปในสนามบินมากเป็นพิเศษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าประเทศนั้นๆ มีความพร้อมในการรองรับชาวต่างชาติ และชวนให้พวกเขาเหล่านั้นกลับมาเยือนอีก
จากการสำรวจของ Skytrax บริษัทวิจัยด้านธุรกิจบริการขนส่งทางอากาศ สนามบินที่ผู้ใช้บริการประทับใจมากที่สุด และได้รับตำแหน่ง ‘สนามบินที่ดีที่สุดในโลก’ ในปี 2023 ไปก็คือ “สนามบินนานาชาติชางงี” ของประเทศสิงคโปร์ที่กลับมาครองตำแหน่งอีกครั้ง หลังเสียตำแหน่งให้สนามบินฮาหมัดในปี 2021 และ 2022 โดยนอกจากจะได้ตำแหน่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลกแล้ว สนามบินชางงี ยังได้ไปอีก 3 รางวัล คือ
- รางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในเอเชีย
- รางวัลสนามบินที่มีร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก
- รางวัลสนามบินที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุดในโลก
World Airport Awards หรือการจัดอันดับและให้รางวัลสนามบินทั่วโลก เป็นการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้สนามบินกว่า 100 สัญชาติที่ Skytrax จัดทำมาตั้งแต่ปี 1999 โดยเป็นการวัดความพึงพอใจในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การให้บริการของเจ้าหน้าที่สนามบิน การเช็กอิน การให้บริการของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ความสะอาดโดยรวม ร้านอาหาร พื้นที่ช้อปปิ้ง รวมไปถึงพื้นที่ทำกิจกรรมพักผ่อนต่างๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง
ในปี 2023 สนามบินที่ผู้ใช้และนักเดินทางโหวตว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก 10 อันดับ ได้แก่
- ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี, ประเทศสิงคโปร์
- ท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด, ประเทศกาตาร์
- ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (ฮาเนดะ), ประเทศญี่ปุ่น
- ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน, ประเทศเกาหลีใต้
- ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ลเดอโกล, ประเทศฝรั่งเศส
- ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล, ประเทศตุรกี
- ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก, ประเทศเยอรมนี
- ท่าอากาศยานนานาชาติซูริก, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ, ประเทศญี่ปุ่น
- ท่าอากาศยานนานาชาติท่าอากาศยานมาดริด-บาราฆัส, ประเทศสเปน
นอกจากนี้ อันดับที่ 2 คือสนามบินนานาชาติฮาหมัดยังได้รางวัลสนามบินที่มีพื้นที่ช้อปปิ้งดีที่สุดในโลก และรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดและสะอาดที่สุดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สนามบินฮาเนดะได้ตำแหน่งสนามบินที่สะอาดที่สุดในโลก และสนามบินอินชอนได้รางวัลสนามบินที่พนักงานและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบริการดีที่สุดในโลก
ทำไมสนามชางงีจึงเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก?
จากคำอธิบายของ Skytrax เหตุผลที่สนามบินชางงีเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นเพราะ ชางงีเป็นสนามบินที่ ‘ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน’ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวคนเดียว มาเป็นหมู่คณะ มาเป็นครอบครัว หรือแม้แต่มาทำธุรกิจสั้นๆ หรือมาเปลี่ยนเครื่องเดินทางต่อไปที่อื่น เพราะนอกจากจะมีการให้บริการพื้นฐานและความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมแล้ว ชางงียังเหนือชั้นไปกว่านั้นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการบันเทิงที่ครบครันจนเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของสิงคโปร์เลยทีเดียว
ปัจจุบันสนามบินชางงีประกอบด้วยอาคารผู้โดยสาร 4 แห่ง และ Jewel Changi (จูเวลชางงี) ศูนย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นอาคาร 10 ชั้นซึ่งเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสาร 1, 2 และ 3 และผสานรวมพื้นที่งานศิลปะ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติอันบริสุทธิ์ รวมกันภายใต้โครงสร้างเดียว
โดยในจูเวลชางงีมีแลนด์มาร์คที่สำคัญคือ ‘HSBC Rain Vortex’ หรือ น้ำพุในร่มสูงถึง 40 เมตร ที่ห้อมล้อมด้วยพรรณไม้เขตร้อนชื้นและต้นไม้กว่า 2,000 ต้น นอกจากนี้ยังมี Butterfly Garden (สวนผีเสื้อ) ที่อาคารผู้โดยสาร 3, Sunflower Garden (ทุ่งทานตะวัน) ที่อาคารผู้โดยสาร 2 และ Cactus Garden (สวนแคคตัส) ที่อาคารผู้โดยสาร 1 ซึ่งมีแคคตัสและพืชทนแล้งกว่า 100 สายพันธุ์
นอกจากสวนธรรมชาติที่เป็นจุดเด่นของชางงีแล้ว สนามบินชางงียังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้ผู้เดินทาง ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ IMAX, สนามเด็กเล่นในร่ม รวมไปถึงร้านอาหารและสถานที่ช้อปปิ้งถึง 280 ร้าน โดยอีกสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญก็คือโรงแรม Crowne Plaza ในสนามบิน ซึ่งได้รับรางวัลโรงแรมในสนามบินที่ดีที่สุดในโลกจาก Skytrax มา 8 ปีติดต่อกันแล้วในปีนี้
ปัจจุบันสนามบินชางงีบริหารโดย Changi Airport Group หน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลสิงคโปร์ ภายใต้ความดูแลของกระทรวงการคลัง
ที่มา: Skytrax, CNN, Incheon Airport, AOT