การตัดสินใจไปเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ที่กำลังจะมาถึงนอกจากปัจจัยเรื่องนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองจะถูกใจประชาชนหรือไม่แล้ว ต้องยอมรับว่า ตัวบุคคล ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ประชาชนนำมาพิจรณาในตัดสินใจเลือกกตั้งด้วยเช่นกัน
นโยบายเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้หาเสียงกันมากที่สุดเพราะหมายถึงปากท้องของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ขณะที่ตัวบุคคล แต่ละพรรคต่างพยายามประสานกูรู ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ มาอยู่ในพรรคของตัวเองให้ได้มากที่สุด พรรคไหนได้ใครมานำทีมเศรษฐกิจกันบ้าง SPOTLIGHT รวบรวมรายชื่อขุนพลเศรษฐกิจของ 5 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ
พรรคเพื่อไทย
ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยมีทั้งอดีตรัฐมนตรีและนักธุรกิจภาคเอกชน อย่างคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมอยู่ด้วย โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรมว.พลังงาน สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานคณะกรรมการฯ นอกจากนี้ยังมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกด้วย
นอกจากทีมคณะทำงานจะมีประสบการณ์แล้ว เพื่อไทยยังมีที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ 4 คน
-นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษา ด้านนโยบาย 3 นายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ, นายสมัคร สุนทรเวช และนายทักษิณ ชินวัตร
-นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
อดีตผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั่นคือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
-นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ
หลายคนอาจจะคุ้นชินกับ ดร.ศุภวุฒิ ในบทบาทของนักเศรษฐศาสตร์ แต่ในทางการเมืองดร.ศุภวุฒิ ก็เคยใช้ความรู้ตวามสามารถด้านเศรษฐกิจในช่วงสำคัญเวลาสำคัญของเศรษฐกิจไทยประเทศไทย ทั้งในปี 2540 ทำหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองนายทักษิณ ชินวัตร ขณะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ส่วนช่วงปี 2544 เคยเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายการเงินคลัง รมว.คลัง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐบาลทักษิณและนั่งกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและเลขานุการ นายทักษิณ ชินวัตร อีกด้วย
-นายปานปรีย์ พหิทธานุกรอดีตผู้แทนการค้า/อดีตที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ
ดร.ปานปรีย์ ยังเคยเป็นหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี ประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศ BIMST-EC และเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม วางแผนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่ออุตสาหกรรมใน Eastern Seaboard
นอกจากนี้ในพรรคเพื่อไทยยังมีทีมงานเศรษฐกิจที่เป็นกรรมการประกอบด้วย นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, นายจักรพงษ์ แสงมณี, นายกฤษฎา ตันเทิดทิตย์, นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ, นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล และนายศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ
พรรคก้าวไกล
ทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล ล้วนแล้วแต่เป็นนักวิชาการเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ และผู้บริหารภาคธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงทั้งสิ้น นำทีมโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจนินายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต Think Forward Center
นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองศาสตราจารย์แห่ง National Graduate Institute for Policy Studies (GRIPS) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น / ดร.สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล อดีตผู้พิพากษาศาลสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อดีตกรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi และยังเป็นนักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศอีกด้วย / นายวรภพ วิริยะวิโรจน์ มืออภิปรายเรื่องต่อต้านนโยบายผูกขาด / นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ประธานคณะกรรมการสำนักการตลาด กรุงเทพมหานคร อดีตผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) / นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการเงินและนักยุทธศาสตร์ด้านข้อมูล อดีตรองผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร
พรรครวมไทยสร้างชาติ
ทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แก่ หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร หรือ หม่อมปืน หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในบริษัทเอกชนทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ยังมีคนรุ่นใหม่เช่น นายชวิน อรรถกระวีสุนทร นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ / นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การบริหารและกลุ่มงานวิจัยธุรกิจ ก่อนหน้า เคยเป็น นักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกน ประเทศไทย / นายวินท์ สุธีรชัย ผู้ก่อตั้งและเป็นซีอีโอ บริษัทอินเท็กส์ สตีล
ส่วนที่ปรึกษา 6 คน คือ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง / นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถือว่าเป็นมือทำงานด้านเศรษฐกิจคนสำคัญของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ว่าได้ ซึ่งนอกจากคุณสุพัฒนพงษ์จะมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นมือประสานงานทางการเมืองคนสำคัญของพรรคอีกด้วย
นายจุติ ไกรฤกษ์ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย อดีตเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ประสบการณ์ที่เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาโดยตลอด จึงถูกมอบหมายให้มาดูแลในเรื่องที่เกี่ยวกับ เด็ก เยาวชน ผู้สูงวัย และกลุ่มคนเปราะบาง
นอกจากนี้ยังมีนายอนุชา นาคาศัย ดูแลนโยบายภาคเกษตร /นายสุชาติ ชมกลิ่น ดูแลนโยบายด้านแรงงาน /นายพล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพ
พรรคพลังประชารัฐ
ฟากพรรคพลังประชารัฐ ที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นผู้ประสานสิบทิศนำเอาขุนพลทางเศรษฐกิจมารวมอยู่ในพรรคได้อย่างโดดเด่นนำทีมโดย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน เป็นทีมเศรษฐกิจ ร่วมทำงานกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง / นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.อุตสาหกรรม และอดีต รมว.คลัง สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา / นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พาณิชย์ และอดีต รมว.พลังงาน สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นอกจากนี้ยังมี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย /นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พรรคประชาธิปัตย์
ด้านประชาธิปัตย์ ก็เต็มไปด้วยผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานด้านเศรษฐกิจเช่นกัน โดยมีคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีม และมีคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1. ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม 2. นายเกียรติ สิทธีอมร 3. นายอลงกรณ์ พลบุตร 4. ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ 5. ม.ร.ว. ศศิพฤนท์ จันทรทัต 6.ดร.สรรเสริญ สมะลาภา 7. นางสาว วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) และ 8. ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ
ประชาธิปัตย์เดินหน้ายุทธศาสตร์ ‘สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ’ เป็นกรอบใหญ่ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ของประเทศ สำหรับด้านเศรษฐกิจนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจมหภาค และเศรษฐกิจทันสมัย ซึ่งจะมีเศรษฐกิจอนาคตรวมอยู่ด้วย
